posttoday

จีนยกระดับซ้อมรบหลังสัมพันธ์สหรัฐร้าวฉาน 

12 สิงหาคม 2563

กองทัพจีนยกระดับการซ้อมรบในแถบเอเชียตะวันออกถี่ขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำซ้อมรบด้วยกันในทะเลจีนใต้ถึง 2 ครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว  

เมื่อเดือนที่แล้ว กองทัพสหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส นิมิตซ์ (USS Nimitz) และยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน (USS Ronald Reagan) มาปฏิการซ้อมรบคู่กันในทะเลจีนใต้ หลังจากที่สหรัฐกล่าวหาจีนว่าเข้าครอบครองทรัพยากรในหมู่เกาะสแปรตลีย์อย่างผิดกฎหมาย

หลังจากนั้น หนังสือพิมพ์ Global Times ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีนก็รายงานว่า กองทัพบกและกองทัพเรือของจีนได้ซ้อมรบทั้งทางบกและทางทะเลในทะเลจีนใต้หลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และจะซ้อมรบต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ข้างหน้า

Global Times อ้างว่าการซ้อมรบของกองทัพจีนเกิดขึ้นในช่วงที่กองทัพสหรัฐปฏิบัติกิจกรรมทางทหารเพื่อยั่วยุจีนใกล้กับไต้หวันและทะเลจีนใต้

การเดินทางเยือนไต้หวันของ อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ เพื่อพบปะหารือกับประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ กลายเป็นชนวนความขัดแย้งล่าสุดระหว่างจีนกับสหรัฐ เนื่องจากจีนมองว่าสหรัฐไม่เคารพหลักการจีนเดียวของจีน

บทความใน Global Times ระบุว่าทางการจีนไม่พอใจสหรัฐมากที่ส่งอาซาร์มาเยือนไต้หวัน และยังอ้างคำพูดของ สวีกวงอวี้ ที่ปรึกษาระดับสูงของสมาคมควบคุมอาวุธและการปลดอาวุธของจีนที่กล่าวว่า หากสหรัฐยังไม่หยุดยั่วยุจีน กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะตอบโต้กลับหนักกว่านี้ รวมทั้งการซ้อมยิงมิสไซล์ทางตะวันออกของเกาะไต้หวันและใกล้ๆ กับเกาะกวมซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐ

และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ส.ค.) จีนส่งเครื่องบินขับไล่บินล้ำเส้นกึ่งกลางในช่องแคบไต้หวัน ขณะที่ฝั่งไต้หวันส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัด

ในอดีตที่ผ่านมาจีนและไต้หวันใช้เส้นกึ่งกลางในช่องแคบไต้หวันนี้แบ่งเขตระหว่างจีนและไต้หวันอย่างไม่เป็นทางการ แม้ว่าตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นน่านฟ้าสากลอยู่ก็ตาม และจากข้อมูลของรัฐบาลไต้หวันและรัฐบาลสหรัฐ เครื่องบินรบของจีนจงใจข้ามเส้นแบ่งนี้เพียง 3 ครั้งเท่านั้นนับตั้งแต่ปี 1999 คือ เดือน มี.ค. 2019  เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

กรณีนี้ คาร์ล ชูสเตอร์ นักวิเคราะห์ด้านการทหารและอดีตหัวหน้าศูนย์บัญชาการร่วมกองบัญชาการแปซิฟิกของสหรัฐ มองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จีนจะซ้อมรบเพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปยังสหรัฐและไต้หวัน และกองทัพอากาศและกองทัพเรือจีนอาจซ้อมรบใกล้ๆ กับไต้หวัน หากสีจ้นผิงต้องการ หรืออาจจะซ้อมยิงมิสไซล์ใกล้กับเกาะกวม

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจีนและสหรัฐจะเปิดศึกสงครามน้ำลายผ่านสื่อ แต่ยังมีการพูดคุยกันในระดับผู้นำกองทัพของทั้งสองฝั่ง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาร์ก เอสเปอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐ และเว่ยเฟิ่งเหอ รมว.กลาโหมจีน ได้ต่อสายหารือกัน

แถลงการณ์จากฝั่งสหรัฐระบุว่า รัฐมนตรีทั้งสองฝั่งเห็นพ้องต้องกันในการรักษาช่องทางการติดต่อพูดคุยระหว่างกันไว้ และพัฒนาระบบที่จำเป็นสำหรับสื่อสารระหว่างเกิดวิกฤต