posttoday

อยากเริ่มธุรกิจใหม่ เริ่มตอนเศรษฐกิจย่ำแย่นี่แหละดี

27 มิถุนายน 2563

หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส, เบอร์เกอร์คิง, แอร์บีแอนด์บี ล้วนก่อตั้งขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้

การระบาดของโรค Covid-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ หยุดชะงัก หลายธุรกิจที่แม้จะเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดยังแทบเอาตัวไม่รอด ต้องปลดพนักงานหรือบางแห่งก็ต้องปิดตัวลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำนี้จะเป็นหายนะสำหรับธุรกิจเสมอไป บางครั้งกลับเป็นโอกาสดีในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยซ้ำ

ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้หลายแห่งเริ่มขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ที่ก่อตั้งในปี 1908 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังอลหม่านหลังจากวิกฤตการเงินในปี 1907

ส่วนเบอร์เกอร์คิง (Burger King) ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเริ่มกิจการในปี 1953 ตรงกับช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยอีกครั้ง สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) เริ่มรายงานข่าวปี 1980 ในภาวะที่เงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 15% อูเบอร์ (Uber) และแอร์บีแอนด์บี (Airbnb) เข้าสู่ตลาดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2007-2009

นี่คือตัวอย่างของธุรกิจที่ก่อตัวขึ้นในช่วงเศรษฐกิจขาลง แต่สามารถเอาตัวรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

เดน สแตรงเลอร์ นักวิจัยจากศูนย์นโยบายทวิภาคีในสหรัฐเผยว่า เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทำให้บริษัทเหล่านี้แข็งแกร่งและมีความคล่องตัวมาจนถึงทุกวันนี้

หรือพูดอีกอย่างก็คือ สถานการณ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนเป็นบททดสอบความสามารถและความเข้มแข็งของบริษัท เพราะแน่นอนว่าช่วงเศรษฐกิจตกต่ำสถาบันการเงินต่างๆ ก็ไม่อยากปล่อยเงินกู้ นักลงทุนก็ไม่พร้อมร่วมลงทุนด้วย ส่วนลูกค้าก็ยังไม่ต้องการจับจ่ายใช้สอย

และตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลงอีกครั้งอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสและการล็อกดาวน์ทั่วโลก

ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจโลกจะหดตัวราว 5.2% ซึ่งถือว่าร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1946 และหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และหลายประเทศกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อาทิ สหรัฐ หรืออังกฤษที่จะถดถอยหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 1706 หรือในรอบ 314 ปี

เมื่อเศรษฐกิจทั่วโลกพากันดิ่งเหวเชนนี้ก็พานให้หลายคนไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจในช่วงนี้ แต่ประวัติศาสตร์ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จสามารถก่อตัวท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากได้

และในสหรัฐก็เริ่มมีสัญญาณการเกิดขึ้นของธุรกิจใหม่ๆ ตัวเลขจากทางการระบุว่าช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ชาวอเมริกันยื่นเรื่องขอตั้งบริษัทใหม่ถึง 67,160 แห่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 21%

คำถามก็คือทำไมคนอเมริกันยังกล้าลงทุน

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะงานประจำหายาก เมื่อไม่มีงานก็ต้องดิ้นรนหาเงินด้วยการเริ่มธุรกิจของตัวเอง แต่บางคนก็อาจจะมีไอเดียธุรกิจอยู่ในใจแล้วตั้งแต่ก่อน Covid-19 จะมา พอได้หยุดอยู่กับบ้าน ได้มีเวลาทบทวนเรื่องราวต่างๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจเปลี่ยนไอเดียให้เป็นรูปเป็นร่าง

เพียงแต่จะต้องใคร่ครวญให้รอบด้านและมองการณ์ไกล และเมื่อความคิดตกผลึกแล้วก็ต้องรีบทำให้เร็วที่สุด และใช้เงินน้อยที่สุด เรียนรู้ให้เร็วที่สุดจึงจะรอดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้

นอกจากนี้ การเริ่มธุรกิจในช่วงเศรษฐกิจขาลงยังช่วยให้ได้คนเก่งๆ มาร่วมงานด้วยแบบไม่ยาก เพราะคนส่วนใหญ่กำลังตกงานและต้องการงานทำ

อีกทั้งอุปกรณ์ตกแต่งหรือข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ในบริษัทก็จะราคาถูกลง เนื่องจากผู้ขายต่างต้องการระบายสินค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อชดเชยกับช่วงล็อกดาวน์ที่ค้าขายไม่ได้ นอกจากนี้ ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำยังเป็นช่วงที่ธนาคารกลางประกาศลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย การกู้เงินก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงเมื่อเทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจเบ่งบาน

อย่างไรก็ดี ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าทุกธุรกิจที่เริ่มในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำจะประสบความสำเร็จทั้งหมด แต่หากเริ่มแล้วผ่านไปได้ก็จะเป็นการการันตีว่าธุรกิจนั้นๆ แข็งแกร่งพอที่จะอยู่สร้างตำนานได้อย่างหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เอ่ยไปข้างต้น

ภาพ : franchisebusinessreview.com