จีนได้ทีเหน็บสหรัฐติงเรื่องสลายม็อบฮ่องกง แต่ตัวเองปราบจลาจลหนักมือ
สื่อจีนใช้การจลาจลทางเชื้อชาติชี้ให้เห็นว่าสหรัฐใช้สองมาตรฐานกับการประท้วงที่ฮ่องกง
สื่อทางรัฐบาลจีนฉวยโอกาสที่เกิดจลาจลขึ้นในหลายเมืองของสหรัฐ ทำการวิจารณ์การกระทำรุนแรงต่อประชาชนชาวอเมริกัน โดยนำมาเปรียบเทียบกับท่าทีของสหรัฐที่ตำหนิจีนเรื่องการจัดการความเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
รัฐบาลจีนถูกชาติตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์มานานเรื่องการจัดการประท้วงในฮ่องกง โดยโจมตีว่าจีนละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง และเมื่อเหตุการณ์ความไม่สงบปะทุขึ้นทั่วสหรัฐ โฆษกของรัฐบาลจีนและสื่อของทางการก็ไม่รอช้ารีบโจมตีทางการสหรัฐในทันที
เช่น หูซีจิ้น (Hu Xijin) หัวหน้าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Global Times ของรัฐบาลจีนที่เขียนบทความว่า "แนนซี เปโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐเคยเรียกการประท้วงอย่างรุนแรงในฮ่องกงว่า 'เป็นภาพอันสวยงามจนละสายตาไม่ได้' ... ในตอนนี้นักการเมืองสหรัฐสามารถเพลิดเพลินกับภาพนี้ได้จากหน้าต่างบ้านของพวกเขาเอง"
หูซีจิ้นยังกล่าวว่า "ราวกับว่าพวกหัวรุนแรงที่ก่อการจลาจลในฮ่องกงแอบเข้ามาในสหรัฐแล้วสร้างความวุ่นวายอย่างที่พวกเขาทำเมื่อปีที่แล้ว"
หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าจะยกเลิกสิทธิ์พิเศษของฮ่องกงเนื่องจากจีนผลักดันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งชาติตะวันตกเกรงว่าจะเป็นการริดรอนสิทธิของชาวฮ่องกง สื่อของทางการจีนก็มีปฏิกริยาในทันที เช่น China Daily ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่บอกว่า นักการเมืองสหรัฐมักจะกล่าวหาจีนเป็นผู้ร้าย
"ความรุนแรงกำลังแผ่ขยายไปทั่วสหรัฐ ... นักการเมืองสหรัฐควรทำงานและช่วยแก้ปัญหาในสหรัฐแทนที่จะพยายามสร้างปัญหาและเรื่องวุ่นวายใหม่ๆ ในประเทศอื่นๆ" บทความความเห็นใน China Daily ระบุพร้อมแนะให้สหรัฐ "เลิกฝันจะดีกว่าและกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง"
เมื่อความรุนแรงเกิดขึ้นในสหรัฐเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวชุนอิ๋ง (Hua Chunying) โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนก็เหน็บแนมรัฐบาลสหรัฐทันที โดยเธอโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า "ผมหายใจไม่ออก" พร้อมกับภาพแคปหน้าจอทวีตของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐมอร์แกน ออร์เทกัส (Morgan Ortagus) ที่เคยวิจารณ์รัฐบาลจีนเกี่ยวกับนโยบายของฮ่องกง
ประโยคคำพูด "ผมหายใจไม่ออก" เป็นของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจจับกุมตัวแล้วพูดซ้ำๆ ก่อนที่เขาจะตาย หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกเข่าลงที่คอของเขาเป็นเวลาเกือบ 9 นาที จนจุดชนวนความไม่สงบทั่วสหรัฐอยู่ในเวลานี้
(Photo by Apu GOMES / AFP