posttoday

ภรรยาบิล เกตส์ ให้ D- รัฐบาลทรัมป์รับมือโควิด

08 พฤษภาคม 2563

เมลินดา เกตส์ ประเมินทรัมป์สอบตกได้เกรด D- รับมือโควิดเชื่องช้า ไร้ประสิทธิภาพ

เว็บไซต์ Politico ได้เผยบทสัมภาษณ์นางเมลินดา เกตส์ภรรยาบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์ ถึงประเด็นการรับมือสถานการณ์ไวรัสโคโรนาระบาดภายใต้คณะบริหารรัฐบาลทรัมป์ โดยนางเกตส์ได้ประเมินพร้อมให้เกรดผลงานของรัฐบาลทรัมป์ในระดับแย่มาก หรือ D- เนื่องจากขาดมาตรการตอบสนองรับมืออย่างไร้ประสิทธิภาพและเชื่องช้าโดยเฉพาะส่วนของรัฐบาลกลางวอชิงตัน

นางเกตส์กล่าวว่า ขณะนี้ดูเหมือนรัฐบาลท้องถิ่นทั้ง 50 รัฐต่างหาทางรับมือโควิดด้วยตัวเอง แทนที่จะเป็นการตอบสนองจากรัฐบาลกลาง

ภรรยาผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์เปรียบเทียบกับมาตรการรับมือของเยอรมนีว่า "คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่ประเทศตัวอย่างรับมือโควิดได้ดีอย่าง เยอรมนีทำคือ พวกเขาตรวจคัดกรองเชื้อในเชิงรุก ดังนั้นพวกเราก็ควรจะต้องใช้การตรวจเชิงรุกเช่นกัน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่การแพทย์ในแนวหน้าซึ่งเป็นกำลังหลักและเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด ก่อนที่เราจะคิดเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเปิดกิจกรรมทางสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไปในรูปแบบที่ปลอดภัย แต่กลายเป็นว่าสหรัฐขาดความพยายามในการประสานงานในแต่ละท้องถิ่น นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้นทั่วทั้งอเมริกา"

นางเกตส์กล่าวถึงกรณีที่ แต่ละมลรัฐต่างต้องพึ่งทรัพยากรของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ในการรับมือกับการระบาดในท้องถิ่น รวมถึงการที่บางรัฐต้องการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งโดยอาศัยปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวคือตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับน้อย แต่ยังขาดความชัดเจนในมาตรการรองรับที่รัดกุม "เราควรทุ่มเงินไปกับการทดสอบเชื้อและติดตาม ไปจนถึงการหาพื้นที่กักกันโรคในสหรัฐ แต่นั่นแทบเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญเลย"

ทั้งนี้ สำหรับมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ได้ทุ่มเงินให้กับการวิจัยวัคซีนป้องกันเชื้อโควิดไปแล้วร่วมๆไม่น้อยกว่า 2 ถึง 3 พันล้านดอลลาร์ รวมไปถึงยังบริจาคสนับสนุนให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ถึง 150 ล้านดอลลาร์ ในทันทีที่มีรายงานข่าวว่ารัฐบาลทรัมป์สั่งตัดเงินสนับสนุนอนามัยโลกเนื่องจากไม่พอใจต่อการตอบสนองต่อไวรัสที่เชื่องช้าของ WHO