posttoday

'คลอโรควิน' ยาแห่งความหวังรักษาโควิดมีผลข้างเคียงกับคนไข้

08 เมษายน 2563

ยาคลอโรควินที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เชียร์ ถูกสวีเดนระงับการใช้ หลังมีผลข้างเคียงกับคนไข้ ส่วน CDC ลบคำแนะนำออกจากเว็บไซต์แล้ว

โรงพยาบาลหลายแห่งในเขตแวสตายาตาลันดส์ของสวีเดนระงับการใช้ยาคลอโรควิน (chloroquine) รักษาผู้ป่วย Covid-19 หลังพบว่ามีผลข้างเคียงทำให้ผู้ป่วยมีอาการไมเกรน ตาพร่ามัว และเป็นตะคริว ทั้งยังพบว่าผู้ที่ใช้คลอโรควิน 1 ใน 100 คน มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งอาจนำมาสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้

คาร์ล ซีเดนฮัก หนึ่งในผู้ป่วยชาวสวีเดนที่รับยาคลอโรควินวันละ 2 เม็ดหลังติดเชื้อโคโรนาไวรัสเมื่อวันที่ 23 มี.ค. เผยกับหนังสือพิมพ์ Expressen ว่าหลังจากรับยาไม่กี่วันเขาก็มีอาการตะคริว ตราพร่ามัว และปวดหัวเหมือนกับถูกไฟฟ้าแรงสูงชอร์ต

ทั้งนี้ ยาคลอโรควินซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรียมาตั้งแต่ช่วงปี  1940 กลายเป็นหนึ่งในตัวยาแห่งความหวังที่นำมาปรับใช้ในการรักษาโรค Covid-19 หลังจากมีการใช้ในประเทศจีนก่อนหน้านี้

จากนั้นแพทย์ในยุโรป อาทิ สเปน อิตาลี ก็ได้รับไฟเขียวให้ใช้ยานี้กับผู้ป่วย Covid-19 ที่มีอาการหนัก ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐก็กดดันให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขใช้ยาคลอโรควินรักษาผู้ป่วยในวงกว้าง และเอ่ยว่าตัวเองก็อาจต้องใช้ยานี้เช่นกัน

อย่างไรก็ดีในสหราชอาณาจักรกลับยังไม่อนุญาตให้แพทย์ใช้ยานี้จนกว่าจะทำการทดลองทางคลินิกแล้วเสร็จ เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา ทั้งยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าคลอโรควินรักษาโรค Covid-19 ได้จริง

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ยังลบคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาคลอโรควินรักษาอาการป่วย Covid-19 ออกจากเว็บไซต์แล้ว

ก่อนหน้านี้ CDC เผยแพร่คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาคลอโรควิน โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ของแพทย์บางกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการรับรองและพิจารณาตรวจสอบทางวิทยาศาตร์ หลังจากทรัมป์แนะนำให้แพทย์ใช้ยานี้รักษาชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส

หลังจาก CDC เผยแพร่คำแนะนำให้ใช้คลอโรควิน ผู้ชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายรายตั้งคำถามทำนองเดียวกันว่า จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ายาดังกล่าวมีประสิทธิภาพหรือมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

หลังจากนั้น เว็บไซต์ของ CDC เปลี่ยนข้อความใหม่ว่า “ยังไม่มียาหรือการบำบัดอื่นได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐให้ใช้รักษาหรือป้องกันโรค Covid-19”