posttoday

ตุนกระดาษชำระ กลัว Covid-19 หรือแค่ตื่นตระหนก?

11 มีนาคม 2563

ท่ามกลางการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสในหลายประเทศ กระดาษชำระกลายเป็นสินค้าหายากจนถึงขั้นต้องปล้นหรือวางมวยเพื่อแย่งชิงกัน

การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสทำให้กระดาษชำระกลายเป็นสินค้าหายากในหลายที่ ในฮ่องกงแก๊งโจรถึงกับจับอาวุธปล้นกระดาษชำระมูลค่ากว่า 1,000 เหรียญฮ่องกง หรือราว 4,049 บาท ในญี่ปุ่นมีการคล้องโซ่ล็อกกระดาษชำระในห้องน้ำสาธารณะ ในออสเตรเลียเกิดการลงไม้ลงมือกันเพื่อแย่งกระดาษชำระ จนห้างสรรพสินค้าบางแห่งต้องจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาเฝ้าชั้นวางสินค้า

ชาวออสเตรเลียถึงกับเรียกกลุ่มคนที่แห่ไปตุนกระดาษชำระว่าเป็น “วิกฤตที่โง่ที่สุด” เพราะเมื่อเทียบกับหน้ากากอนามัยหรือเจลล้างมือแล้ว กระดาษชำระดูจะไม่ใช่สิ่งของที่จะใช้ต่อสู้กับโรค Covid-19 ด้วยซ้ำไป

แล้วเหตุใดผู้คนจึงยังกักตุนจนเหลือแต่ชั้นวางว่างเปล่า

เรื่องนี้เหตุผลทางจิตวิทยาอยู่เบื้องหลัง

นิติกา การ์ก ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเผยว่า ปรากฏการณ์ตุนกระดาษชำระเกิดจากอาการ FOMO หรือ Fear Of Missing Out ที่เรียกง่ายๆ ว่า กลัวตกกระแส คือเมื่อเห็นคนนั้นซื้อคนนี้ซื้อ ฉันก็ต้องซื้อด้วย

นอกจากนี้ยังเกิดจากความกลัว เนื่องจากการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวโลก และยังไม่มีข้อมูลแน่นอนว่าการแพร่ระบาดจะหยุดเมื่อไร จะร้ายแรงเพียงใด ดังนั้นมนุษย์จึงต้องเตรียมตัวโดยการกักตุนสินค้าเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือ เป็นการสะท้อนไลฟ์สไตล์ของความสะดวกสบาย โรฮาน มิลเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ระบุว่า กระดาษชำระไม่ได้เป็นอุปกรณ์ยังชีพอันดับต้นๆ แต่เป็นสิ่งที่ผู้คนขาดไม่ได้ในฐานะที่เป็นมาตรฐานความสะดวกสบายที่ควรมี

ด้านเหตุผลของผู้บริโภคนั้น มีชาวนิวซีแลนด์เข้ามาตอบคำถามนี้ในชุมชนออนไลน์ Reddit ซึ่งเป็นไปในทำนองเดียวกันว่า ตุนไว้ในกรณีที่ถูกกักตัวหรือต้องปิดเมือง ส่วนผู้ใช้ที่ชื่อ kimono เผยว่า “การไม่มีการะดาษชำระนี่น่าอึดอัดมาก ถึงจะมีตัวเลือกอื่นอย่างสมุดหน้าเหลืองหรือสายชำระ แต่มันไม่เวิร์กอ่ะ”

ต้องบอกก่อนว่าบางประเทศนิยมใช้กระดาษชำระในการทำความสะอาดหลังเข้าห้องน้ำ ผิดกับคนไทยที่จะต้องมีสายชำระติดห้องน้ำ

แล้วเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างการปิดเมืองเพื่อไม่ให้เชื้อโคโรนาไวรัสแพร่กระจายอย่างที่จีนเคยทำมาแล้ว และอิตาลีกำลังทำอยู่ เราจะต้องเตรียมอะไรบ้าง

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐแนะนำว่าก่อนที่เชื้อโรคจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก (pandemic) ให้เตรียมอาหารและน้ำดื่มให้เพียงพอสำหรับ 2 สัปดาห์ โดยอาหารต้องเป็นอาหารที่ไม่เน่าเสียง่าย อาทิ ผลไม้แห้ง ถั่วต่างๆ อาหารกระป๋อง ข้าว รวมทั้งยารักษาโรค

นอกจากนี้ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยังแนะนำให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำมากๆ  พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่เครียดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสู้กับเชื้อโรคได้

หากจะสรุปการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสก็คือ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม แต่ไม่จำเป็นต้องกักตุน