posttoday

ไม่มีประเทศไหนพร้อมรับมือโรคระบาดได้100%

27 มกราคม 2563

เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าครั้งนี้ชีวิตคนไทยค่อนข้างเสี่ยงมาก เพราะไทยมีผู้ติดเชื้อภายนอกจีนมากที่สุด

 

ไม่แปลกใจที่จะไม่ค่อยมีคนเชื่อ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในขณะนี้ "สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 100%"

พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า "รัฐบาลขอยืนยันในความพร้อมของระบบการแพทย์และสาธารณสุข ที่มีมาตรการเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ติดอันดับ 6 จาก 195 ประเทศ จากการจัดอันดับโดยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจของทุกคน ว่าเราเป็นที่ยอมรับในระดับโลก"

สิ่งที่นายกฯ อ้างถึง คือสิ่งที่ผู้เขียนเห็นแชร์กันในโลกโซเชียลมาหลายวันก่อนหน้าแถลงการณ์ เป็นข้อมูลจาก "ดัชนีความมั่นคงด้านสาธารณสุข" หรือ Global Health Security Index 2019  โดย Johns Hopkins Bloomberg School 

สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์พูดเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไทยมีความพร้อมด้านการรับมือการระบาดอยู่ที่ 6 ของโลก ได้คะแนนถึง 73.2 จาก 100 เต็ม

ไทยเป็นหนึ่งใน 13 ประเทศเท่านั้นที่พร้อมรับกับการระบาดของโรค และเป็นประเทศเดียวในกลุ่มนี้ที่มิใช่ประเทศที่มีรายได้สูง หรือพูดง่ายๆ คือไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่สูสีกับประเทศพัฒนาแล้วในการรับมือกับเรื่องนี้ เอาเข้าจริงดีกว่าประเทศรวยๆ หลายประเทศด้วยซ้ำ

เช่น สิงคโปร์ที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างในสายตาคนไทยยังอยู่อันดับที่ 25 ไทยเรายังดีกว่าสวิตเซอร์แลนด์ (13) ญี่ปุ่น (21) และแน่นอนว่าดีกว่าจีน

เมื่อจำแนกเป็นประเภทความพร้อม คะแนนรวมของไทยอยู่ที่ 6 ของโลก ในด้านการป้องกันการปรากฎขึ้นและการปลดปล่อยเชื้อโรค ไทยอยู่ที่ 3 ของโลก ในด้านการตรวจสอบพบการระบาดแต่เนิ่นๆ เพื่อตอบรับกับความกังวลของประชาคมโลก ไทยอยู่ที่ 15 ในด้านการตอบรับและการสกัดกั้นการระบาด ไทยอยู่ที่ 5 ของโลก

ในด้านความแข็งแกร่งและมั่นคงของระบบสุขภาพเพื่อรักษาอาการป่วยและปกป้องสุขภาพเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไทยอยู่อันดับที่ 2 ของโลก ในด้านความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงศักยภาพของชาติ การเงิน และการรักษาบรรทัดฐาน ไทยอยู่ที่ 12 ของโลก และความเสี่ยงโดยรวมด้านสิ่งแวดล้อมและความเปราะบางของประเทศต่อภัยคุกคามด้านชีววิทยา ไทยอยู่ที่ 93 ของโลก!

เราจะเห็นว่าเกือบทุกประเภทไทยเรามีผลงานดีเด่นหมด แต่เพราะเรายังมีสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าอยู่ จึงรั้งอันดับที่ 93 ของโลกในเรื่องนี้ หมายความว่าเรามีความเสี่ยงต่อภัยด้านสิ่งแวดล้อมมาก แต่เพราะระบบสาธารณสุขเราเยี่ยมยอด จึงพอจะชดเชยกันไปได้

รายงานการจัดอันดับระบุว่า สามารถหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (Mers) ในปี 2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเดือนมิถุนายนปีนั้นประเทศไทยยืนยันและแจ้งให้องค์การอนามัยโลกทราบทันทีว่ามีการพบผู้ติดเชื้อ

รายงานกล่าวว่า "ประเทศไทยสามารถที่จะหยุดกรณีของเมอร์สคนแรก และในแต่ละกรณีที่ได้รับการยืนยันในภายหลัง โดยไม่มีการแพร่กระจายต่อไป"

"ความสำเร็จของประเทศไทยในการระบุและหยุดยั้งเมอร์ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการสร้างขีดความสามารถด้านหลักประกันสุขภาพและบทบาทที่สำคัญที่ระบบการดูแลสุขภาพที่แข็งแกร่งสามารถหยุดยั้งการระบาดที่แหล่งกำเนิด"

รายงานยังเสริมว่า “ประเทศไทยเป็นผู้นำระดับโลกด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ”

อย่างที่บอกไว้ว่า "สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย" เพราะรายงานนี้ยืนยันเอาไว้แล้ว

สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดคือรายงานฉบับนี้ระบุว่า "ไม่มีประเทศใดพร้อมรับกับการระบาดในวงแคบและระบาดทั่วโลก" (no country is fully prepared for epidemics and pandemics)

"ดัชนี GHS พบว่าไม่มีประเทศใดที่มีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการระบาดของโรคที่เกิดขึ้นโดยเจตนาหรือโดยบังเอิญ" นี่คือการยืนยันของ Jennifer Nuzzo รองศาสตราจารย์ที่วิทยาลัย Johns Hopkins Bloomberg School และนักวิชาการอาวุโสที่ Center for Health Security ผู้

ดังนั้นสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์พูดจึงค่อนข้างจะขัดกับการศึกษาของรายงานที่ท่านยกมาอ้างเอง และเรื่องนี้เป็นความมั่นใจที่หมิ่นเหม่เกินไป

ผู้เขียนเข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน แต่ท่านต้องยอมรับด้วยว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ สถานการณ์ที่คิดว่าคุมได้ 100% อาจเอาไม่อยู่ได้เหมือนกัน

ท่านต้องคิดถึงสถานกาณ์ที่เลวร้ายที่สุด ไม่ใช่การมองโลกในแง่ดีอย่างเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะไทยเรานั้นมีความเสี่ยงโดยรวมด้านสิ่งแวดล้อมและความเปราะบางของประเทศต่อภัยคุกคามด้านชีววิทยา เป็นอันดับที่ค่อนค้างแย่ในการจัดอันดับครั้งนี้

และรายงานนี้ยังเผยแพร่ก่อนการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แน่นอนว่า เจ้าหน้าที่ของไทยทำงานอย่างทุมเทและขันแข็ง ทำให้การระบาดไม่กระจายไปรุนแรง แต่เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าครั้งนี้ชีวิตคนไทยค่อนข้างเสี่ยงมาก เพราะไทยมีผู้ติดเชื้อภายนอกจีนมากที่สุด

อันดับของไทยใน Global Health Security Index จะเปลี่ยนแปลงไปเพราะกรณีนี้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป แต่เราไม่ได้คาดว่าอะไรกับดัชนีนี้ ในสถานการณ์เฉพาะหน้า เราคาดหวังว่าภาครัฐจะป้องกันไม่ให้ไวรัสระบาดในวงกว้างในไทยเท่านั้น

หากทำได้ นี่คือผลงานที่น่าภูมิใจกว่าตำแหน่งในการจัดอันดับใดๆ เสียอีก

บทวิเคราะห์โดย กรกิจ ดิษฐาน