posttoday

ทรัมป์เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม หากสั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน

06 มกราคม 2563

อิหร่านถือเป็นอู่อารยธรรมสำคัญแห่งหนึ่งของโลก หากทรัมป์สั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่านตามที่ขู่ จะเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงครามไม่ต่างกับนาซี

อิหร่านถือเป็นอู่อารยธรรมสำคัญแห่งหนึ่งของโลก หากทรัมป์สั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่านตามที่ขู่ จะเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงครามไม่ต่างกับนาซี

ท่ามกลางสถานการณ์อันน่ากังวลในตะวันออกกลางขณะนี้ ระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน จากการที่สหรัฐเปิดปฏิบัติการสังหารนายพล กัสซิม โซเลมานี ผบ.หน่วยรบพิเศษและผู้ทรงอิทธิพลของอิหร่าน

ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตข้อความหนึ่งที่ระบุถึงการขู่ว่า หากอิหร่านแก้แค้นให้กับนายพลโซเล มานี ด้วยการมุ่งเป้าโจมตีทหารหรือพลเรือนอเมริกัน ... สหรัฐพร้อมตอบโต้เป้าหมายสำคัญของอิหร่านใน 52 แห่ง ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายเหล่านั้น รวมถึงแหล่งทางวัฒนธรรมที่สำคัญของอิหร่านด้วย

 

 

อนึ่งจำนวนเป้าหมาย 52 แห่ง ทรัมป์บอกว่าแทนจำนวนพลเมืองอเมริกัน 52 คนที่อิหร่านเคยจับเป็นตัวประกันเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งมองได้ว่า ทรัมป์พยายามใช้แนวคิดชาตินิยม ปลุกความฮึกเหิมและแรงสนับสนุนจากชาวอเมริกัน

ไม่เพียงแค่ข้อความผ่านทวิตเตอร์เท่านั้น ต่อมาทรัมป์ได้ย้ำกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า สหรัฐต้องการที่จะโจมตีแหล่งวัฒนธรรมของอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านได้คร่าชีวิตชาวสหรัฐไปหลายราย

"พวกเขากล้าจุดชนวนระเบิดคร่าชีวิตผู้คนบนถน แล้วเราจะไม่สามารถแตะต้องแหล่งวัฒนธรรมของพวกเขาได้เลยหรือ" ทรัมป์ระบุ

ทรัมป์เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม หากสั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน Golestan Palace

ภายหลัง นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว CNN โดยเลี่ยงการตอบว่าสหรัฐอเมริกามุ่งเป้าโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่านตามที่ทรัมป์ทวีตข้อความไว้จริงหรือไม่ โดยรมว.ต่างประเทศสหรัฐระบุเพียงว่า

"เราจะปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐอย่างกล้าหาญ และเราจะทำในลักษณะที่สอดคล้องกับหลักนิติธรร เรามักทำเช่นนั้นเสมอ .. ข้อความทวิตของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้เบี่ยงเบนจากประเด็นเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย"

 

ทรัมป์เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม หากสั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน Shah Mosque (Isfahan)

เมื่อนายปอมเปโอถูกถามว่า "เป้าแหล่งวัฒนธรรมสำคัญเหล่านี้ เป็นเพียงเป้าหมายในเชิงทฤษฎีหรือไม่?" รมว.ปอมเปโอตอบว่า "เรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง และหลายสิ่งสอดคล้องกับกฎหมายของสหรัฐฯ" 

ทรัมป์เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม หากสั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน Sheikh Safi al-Din Khanegah and Shrine Ensemble

อิหร่านถือเป็นหนึ่งในอู่อารยธรรมสำคัญของโลก ไม่ต่างจากจีนหรืออินเดีย สามารถนับย้อนไปได้ไกลกว่ายุคเปอร์เซีย อิหร่านมีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ถูกขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโกมากถึง 22 แห่ง

หากย้อนกลับไปในปี 2012 เหตุการณ์ที่กลุ่มอัลกออิดะห์ ใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายศาสนสถานในเมืองทิมบักตู (Timbuktu) ของประเทศมาลี จนได้รับความเสียหาย จนต่อมาศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้สร้างประวัติศาสตร์ตัดสินลงโทษจำคุก 9 ปี นาย Ahmad al-Faqi al-Mahdi กับพวกโทษฐานก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งนับเป็นคดีอาญาแรกที่ ICC ตัดสินลงโทษในความผิดทำลายแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม

ทรัมป์เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม หากสั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน Jameh Mosque of Isfahan

หรือแม้แต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายพันธมิตรได้จัดตั้งคณะทำงานด้านการรวบรวมและรักษางานศิลปะ ซึ่งมีทั้งฝ่ายทหารและผู้เชี่ยวชาญงานศิลป์ภายใต้ชื่อ Monuments, Fine Arts, and Archives program มุ่งพิทักษ์รักษางานศิลปะหลายแขนงไม่ให้ถูกทำลายด้วยฝีมือนาซีหรือได้รับผลกระทบจากสงคราม

ปี 2017 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติ ประณามการทำลายมรดกทางวัฒนธรรมอย่างผิดกฎหมายรวมถึงการทำลายสถานที่ทางศาสนา อันเป็นผลเนื่องจากการบุุกทำลายสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของกลุ่มไอซิส ในซีเรียและอิรักระหว่างปี 2014-2015

 

ทรัมป์เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม หากสั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน Sheikh Safi al-Din Khanegah and Shrine Ensemble

ตามกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับ ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงความผิดต่อมนุษยชาติหากใช้ปฏิบัติการทางทหารมุ่งโจมตีมรดกทางวัฒนธรรม ยกตัวอย่างเช่น อนุสัญญากรุงเฮกในปี 1954 ที่สหรัฐฯเป็นร่วมเป็นภาคีด้วย ระบุอย่างชัดเจนแล้วถึง ห้ามหน่วยทหารใดก็ตาม ทำลายหรือทำสงครามโดยตรงกับทรัพย์สินทางวัฒนธรรม

Oona Hathaway ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยเยล และเคยเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายกฎหมายด้านความมั่นคงในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เตือนทรัมป์ว่า หากทรัมป์หมายจะโจมตีแหล่งวัฒนธรรมสำคัญของอิหร่านตามที่ขู่ ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน

ทรัมป์เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม หากสั่งโจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน Shah Mosque (Isfahan)

ยังมีรายงานด้วยว่าบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐหลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นคัดค้านกันเป็นวงกว้าง หลังการทวิตข้อความมุ่งเป้าโจมตีอิหร่านใน 52 แห่งของทรัมป์

นอกจากนี้ในโลกโซเชียลยังมีการติด #IranianCulturalSites พร้อมโพสต์รูปสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของอิหร่านว่าหลายแห่งสวยงามและทรงคุณค่าต่อมนุษยชาติเกินประเมินได้

Photo : WikiCommon