posttoday

มหาเศรษฐีทั่วโลกจนลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

08 พฤศจิกายน 2562

ความวุ่นวายทางการเมืองและความผันผวนของตลาดหุ้นทำบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมีทรัพย์สินลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ทศวรรษ

ความวุ่นวายทางการเมืองและความผันผวนของตลาดหุ้นทำบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมีทรัพย์สินลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ทศวรรษ

ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติ UBS เผยรายงานมหาเศรษฐี UBS/PwC Billionaires Report ประจำปี 2019 โดยพบว่าเมื่อปีที่แล้วทรัพย์สินของบรรดามหาเศรษฐีทั่วโลกมีมูลค่าลดลง 388,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ 8.539 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนซึ่งมีมหาเศรษฐีมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ธนาคาร UBS คือหนึ่งในสถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐและความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเมื่อปีที่แล้วลูกค้าของธนาคารมักจะหลีกเลี่ยงการซื้อขายและเลือกกู้ยืมเงินมากกว่าการสั่งสมเงินสด

รายงานฉบับนี้ระบุว่า ทรัพย์สินของมหาเศรษฐีจีนลดลง 12.8% เมื่อคิดเป็นหน่วยเหรียญสหรัฐ เนื่องจากความผันผวนของตลาดหุ้นและการอ่อนค่าของค่าเงินหยวน บวกกับเมื่อปีที่แล้วเศรษฐกิจจีนเติบโตในระดับช้าที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี ทำให้มหาเศรษฐีบางรายหลุดโผมหาเศรษฐี ถึงกระนั้นก็ยังมีมหาเศรษฐีจีนหน้าใหม่เกิดขึ้นในทุกๆ 2-2.5 วัน

แม้ว่าจำนวนมหาเศรษฐีจากทั่วทุกมุมโลกจะลดลง แต่ในสหรัฐกลับตรงกันข้าม เพราะมีมหาเศรษฐีเกิดใหม่ถึง 33 คนใน 12 เดือน เนื่องจากบรรดาเจ้าของกิจการสายเทคโนโลยียังสั่งสมความมั่งคั่งได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง จอห์น แมทธิวส์ หัวหน้าฝ่ายการจัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคลของธนาคาร UBS ในสหรัฐ เผยว่า ข้อเท็จจริงนี้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐมีความยืดหยุ่น ฟื้นตัวได้เร็ว

อย่างไรก็ดี แม้การฟื้นตัวของตลาดหุ้นในช่วงปลายปีที่แล้วจะช่วยให้มหาเศรษฐีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลกก็ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า การแยกตัวจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ไปจนถึงปัญหาภาวะโลกร้อน คนกลุ่มนี้จึงพยายามเก็บเงินสดไว้มากกว่า