posttoday

FBIเผยฆาตกรต่อเนื่องเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ สารภาพฆ่าเหยื่อ 93 คน

08 ตุลาคม 2562

สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ เผยเบื้องหลังการก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง 93 รายของชายวัย 79 ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารเหยื่อมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ เผยเบื้องหลังการก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง 93 รายของชายวัย 79 ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารเหยื่อมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

ฆาตกรรายนี้มีชื่อว่า ซามูเอล ลิตเติล ปัจจุบันอายุ 79 ปีถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำในรัฐเทกซัส เรื่องราวการลงมือสังหารเหยื่อของเขาเริ่มเปิดเผยหลังจากเขาถูกจับกุมตัวที่บ้านพักคนไร้บ้านในรัฐเคนทักกีเมื่อเดือน ก.ย. 2012 และถูกส่งตัวไปดำเนินคดีข้อหายาเสพติดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่การตรวจสอบดีเอ็นเอของเขาจะเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมในลอสแองเจลิสที่ยังปิดไม่ลงเมื่อปี 1987 และ 1989 ซึ่งเหยื่อเป็นหญิง 3 รายถูกทุบตีและรัดคอแล้วถูกนำร่างไปทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ

โดยเบื้องต้นลิตเติลปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่สุดท้ายเขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตทั้ง 3 คดี

FBIเผยฆาตกรต่อเนื่องเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ สารภาพฆ่าเหยื่อ 93 คน

การก่อคดีฆาตกรรมหญิงทั้งสามคนของเขาถูกนำไปเป็นกรณีศึกษาในโครงการทำความเข้าใจการใช้ความรุนแรงของอาชญากร (ViCAP) ซึ่งจะวิเคราะห์ฆาตกรต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมทางเพศและใช้ความรุนแรงของเอฟบีไอ แล้วแชร์ผลวิเคราะห์ไปยังตำรวจในรัฐต่างๆ เพื่อใช้เชื่อมโยงกับคดีที่ยังปิดไม่ได้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถเชื่อมโยงคำสารภาพของลิตเติลกับการเสียชีวิตของเหยื่อได้แล้ว 50 คดี

เจ้าหน้าที่จากโครงการ ViCAP เผยว่า พวกเขาพบรูปแบบที่น่าตกใจและความเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมอีกมากมายทั่วสหรัฐ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจึงกลับมาติดตามคดีฆาตกรรมที่ยังปิดไม่ลงของ เดนิส คริสตี บราเธอร์ส หญิงจากรัฐเทกซัส ที่สงสัยว่าจะถูกลิตเติลลงมือฆ่า

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษของรัฐเทกซัสอย่าง Texas Rangers ยังเดินทางมายังเรือนจำในแคลิฟอร์เนียเพื่อสอบสวนลิตเติลเมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้วจนนำมาสู่การสารภาพว่าเขาลงมือสังหารทั้งหมด 93 ครั้ง และในที่สุดลิตเติลถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆ่า เดนิส คริสตี บราเธอร์ส และถูกส่งตัวไปรับโทษที่เรือนจำในรัฐเทกซัสที่เขาถูกจองจำอยู่ในปัจจุบัน

FBIเผยฆาตกรต่อเนื่องเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ สารภาพฆ่าเหยื่อ 93 คน

เหยื่อของฆาตกรรายนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงชาวแอฟริกัน-อเมริกันและมักจะมีจุดร่วมที่คล้ายๆ กัน คือ เป็นคนที่สังคมไม่ค่อยสนใจไม่ค่อยให้ความสำคัญ อาทิ หญิงค้าประเวณีหรือติดยาเสพติด โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่มักจะระบุสาเหตุการเสียชีวิตของเหยื่อว่ามาจากการเสพยาเกินขนาด อุบัติเหตุ หรือไม่ทราบสาเหตุ

และจนถึงปัจจุบันนี้เจ้าหน้าที่ยังหาร่างผู้เสียชีวิตบางรายไม่พบ เนื่องจากฆาตกรซึ่งเป็นอดีตนักมวยมักจะต่อยเหยื่อจนสลบด้วยหมัดอันทรงพลังแล้วจึงรัดคอ ทำให้ไม่มีร่องรอยการแทงหรือรูกระสุน

จากคลิปการสอบสวนที่เอฟบีไอนำมาเผยแพร่นั้น ลิตเติลพูดถึงการลงมือของตัวเองด้วยความตื่นเต้น พูดถึงแต่ละเหตุกาณ์ราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา และมักจะยิ้มหรือหัวเราะไปด้วยตลอดการให้การ ทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวอย่างละเอียด รวมทั้งชื่อถนนและเสื้อผ้าของเหยื่อโดยไม่มีท่าทีสำนึกผิดแต่อย่างใด แต่เหยื่อบางรายก็จำปีที่เกิดเหตุไม่ค่อยได้ นักสืบ ไมเคิล ม็องเกลูซโซ จากรัฐฟลอริดาเผยว่า ลิตเติลบอกกับเขาว่า “พระเจ้าส่งผมมาบนโลกเพื่อให้ผมทำสิ่งที่ผมได้ลงมือไป พระเจ้าสั่งให้ผมทำ”

FBIเผยฆาตกรต่อเนื่องเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ สารภาพฆ่าเหยื่อ 93 คน

ฆาตกรวัย 79 ปียังเอ่ยถึงการลงมือสังหารหญิงผิวดำในเมืองนิวออร์ลียส์ รัฐลุยเซียนาเมื่อปี 1982 ว่าเขาพบเหยื่อในงานปาร์ตี้วันเกิดแล้วขับรถพาหญิงวัย 30-40 ปีจากงานไปที่คลองแห่งหนึ่ง “ผมลากขาเธอลงน้ำ เธอเป็นคนเดียวที่ผมทำให้จมน้ำตาย ผมปล่อยเธอไว้ทั้งๆ ที่ศีรษะเธอยังจมอยู่ในน้ำ ลำตัวครึ่งบนของเธอจมน้ำ ส่วนขาพาดอยู่บนฝั่ง”

นอกจากนี้ ลิตเติลยังสารภาพว่าเขาลากร่างของหญิงข้ามเพศวัยรุ่นไปในหนองน้ำที่เต็มไปด้วยโคลนในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดาราวปี 1972 และยังบอกด้วยว่าเหยื่อรายนี้ชื่อแมริแอนน์และเชื่อว่าจะไม่มีใครหาร่างของเธอพบ ส่วนเหยื่ออีกรายหนึ่งเป็นหญิงผิวดำที่ถูกฆ่ารัดคอที่รัฐอาร์คันซอช่วงปี 1992-1994 

เจ้าหน้าที่เอฟบีไอรายหนึ่ง ยังเผยด้วยว่าลิตเติลเชื่อมาตลอดหลายปีว่าเขาจะไม่ถูกจับ เพราะเหยื่อเหล่านี้ไม่มีญาติหรือไม่มีใครสนใจ

FBIเผยฆาตกรต่อเนื่องเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ สารภาพฆ่าเหยื่อ 93 คน

นอกจากคำสารภาพจากปากแล้ว ฆาตรกรต่อเนื่องรายนี้ยังสเก็ตช์ภาพของเหยื่อ 30 ราย พร้อมทั้งข้อมูลว่าเขาพบเหยื่อแต่ละรายที่ไหนให้เจ้าหน้าที่ โดยที่ผ่านมาลิตเติลถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมเพียง 8 กระทงรวมทั้งคดีที่เขาสารภาพกับเอฟบีไอ

ทั้งนี้ ลิตเติล หรือรู้จักในอีกชื่อว่า ซามูเอล แม็คโดเวลล์ เติบโตในรัฐโอไฮโอ เขาลาออกจากโรงเรียนกลางคันแล้วออกตระเวนไปทั่วสหรัฐ ระหว่างนั้นก็ก่อคดีหลายคดี เช่น ขโมยของในร้านค้า ลักเล็กขโมยน้อยเพื่อนำเงินมาซื้อแอลกอฮอล์และยาเสพติด เขาเคยถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมหญิงในรัฐมิสซิสซิปปีและฟลอริดาในช่วงปี 1980 แต่ได้รับการปล่อยตัวไป 

แต่สุดท้ายเขาก็หนีผลกรรมที่ตัวเองทำไว้ไม่พ้น และหากศาลไม่ตัดสินประหารชีวิตเขาเสียก่อน อาชญากรที่ลงมือสังหารเหยื่อมากที่สุดของสหรัฐอาจต้องถูกจองจำจนกระทั่งจบชีวิตในเรือนจำเทกซัส