posttoday

ร่างกฎหมายหนุนประชาธิปไตยของสหรัฐ ตัวช่วยหรือซ้ำเติมฮ่องกง

19 กันยายน 2562

สภาสหรัฐเดินหน้าหนุนร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง

สภาสหรัฐเดินหน้าหนุนร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง

ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประท้วงฮ่องกงพากันไปชุมนุมที่หน้าสถานกงสุลสหรัฐประจำฮ่องกง พร้อมกับโบกธงชาติและรูปของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐกดดันให้รัฐบาลจีนยอมทำตามข้อเรียกร้อง และเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act และเมื่อเร็วๆ นี้ โจชัว หว่อง แกนนำผู้ประท้วงได้ขึ้นให้การต่อสภาคองเกรสเพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว

ความจริงแล้วร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีการถกกันในสภาสหรัฐมาครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังจากนักเขียนชาวฮ่องกง 5 คนที่ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับผู้นำและรัฐบาลจีนหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อปี 2015 ก่อนจะปรากฏว่าทั้งหมดถูกทางการจีนควบคุมตัวไว้ ต่อมาเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ไม่นานหลังจากชาวฮ่องกงลลุกฮือต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน มาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐฟลอริดา และจิม แม็คโกเวิร์น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ได้เสนอให้สภาหยิบยกร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง

ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวกำหนดให้รัฐบาลสหรัฐประเมินระดับความเป็นเอกราชในการปกครองตนเองของฮ่องกงเป็นรายปี เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะยังคงสิทธิพิเศษทางการค้าให้ฮ่องกงภายใต้กฎหมายนโยบายฮ่องกง-สหรัฐ ปี 1992 หรือไม่ รวมทั้งรัฐบาลสหรัฐยังมีอำนาจลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นการถอนหรือปฏิเสธการออกวีซ่า หรือยึดทรัพย์สินที่อยู่ในสหรัฐของเจ้าหน้าที่ฮ่องกงหรือคนในรัฐบาลจีนที่ขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกง

แน่นอนว่ารัฐบาลจีนย่อมไม่อยู่เฉย เกิ่งสวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนเรียกร้องให้สหรัฐยุติการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวทันที เนื่องจากเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนในฮ่องกง

ด้านเว็บไซต์ Quartz มองว่า ร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงจะส่งผลกระทบกับฮ่องกงหากถูกสหรัฐถอนสิทธิพิเศษทางการค้า ที่เป็นเสมือนโล่ป้องกันการขึ้นภาษีที่สหรัฐเก็บจากสินค้าจีน นอกจากนี้สถานะพิเศษนี้ยังทำให้ชาวฮ่องกงได้รับยกเว้นวีซ่าเข้าสหรัฐ ผิดกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ต้องขอวีซ่า

สอดคล้องกับ สตีเฟน ออร์ลินส์ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติด้านความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน ที่เผยว่า การเสียสถานะพิเศษจากการบังคับใช้ร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงถือเป็นลางแห่งความตายของฮ่องกง ทั้งยังไม่ช่วยแก้ปัญหาทางการเมืองของฮ่องกง เพราะเดิมทีจีนไม่มีความตั้งใจจะใช้กำลังจัดการผู้ประท้วง แต่หากกฎหมายดังกล่าวผ่าน ผลลัพธ์อาจตรงกันข้าม

ขณะที่รัฐบาลฮ่องกงเคยออกแถลงการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมายืนยันว่า สถานะพิเศษทางเศรษฐกิจของฮ่องกงถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญของฮ่องกงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายอื่นจากต่างชาติมารับรองอีก

ด้าน อเล็กซ์ โล คอลัมนิสต์ของสำนักข่าว South China Morning Post ระบุว่า ร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงถือเป็นความเสแสร้งที่แย่ที่สุดของสหรัฐ โลยังเผยอีกว่าหากสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายนี้ สิ่งที่แย่ที่สุดคือชีวิตประชาชนที่สหรัฐอ้างว่าจะปกป้องจะได้รับผลกระทบ และเป็นความพยายามของสหรัฐในการหาประโยชน์จากความวุ่นวายทางการเมืองของฮ่องกงเพื่อนำมาใช้ในการทำสงครามเย็นกับจีน

โจชัว ไอเซนมาน นักวิจัยอาวุโสของฝ่ายจีนศึกษาจากหน่วยงานคลังสมอง American Foreign Policy Council บอกว่า ปัญหาอมตะของอเมริกาก็คือ ชอบคิดว่าตัวเองมีอิทธิพลล้นเหลือ สามารถกำหนดความเป็นไปในโลกได้ แต่ในกรณีจีนนั้นไม่น่าจะใช่ ถ้าออกกฎหมายฉบับนี้ จีนจะยิ่งอ้างได้ว่าต่างชาติทำตัวเป็นมือมืดอยู่เบื้องหลังผู้ประท้วง

ทั้งนี้ นอกเหนือจากฮ่องกงแล้ว สหรัฐยังเคยใช้กฎหมายลักษณะเดียวกันนี้กับกัมพูชา โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม ความมีเสรีภาพทางการเมือง และสิทธิมนุษยชน เพื่อบีบรัฐบาล ฮุน เซน หลังรัฐบาลพยายามกำจัดนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามด้วยการจับกุม เข็ม สุขา หัวหน้าพรรคยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา ตามมาด้วยการสั่งยุบพรรค