posttoday

ศูนย์ข้อมูลออนไลน์ของจีนกินไฟมากกว่าออสเตรเลียใช้กันทั้งประเทศ

09 กันยายน 2562

การใช้ไฟฟ้าจากอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลของจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 66% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

 

รายงานล่าสุดของกลุ่ม Greenpeace ระบุว่าศูนย์ข้อมูลของจีน เป็นแกนหลักของเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และภายในปี 2023 ศูนย์ดาต้าเหล่านี้จะใช้ปริมาณกระแสไฟฟ้ามากกว่าประเทศออสเตรเลียทั้งประเทศ

จากการวิจัยของ Greenpeace สาขาเอเชียตะวันออก และมหาวิทยาลัยพลังงานไฟฟ้าจีนตอนเหนือ พบว่า ในขณะที่จีนเป็นผู้นำของโลกในด้านพลังงานทดแทน แต่บรรดาศูนย์ข้อมูลในประเทศยังคงต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหิน ซึ่งจะปล่อยก๊าซคาร์บอนถึง 99 ล้านตันในปี 2018 และภายในปี 2023 ตัวเลขดังกล่าวจะกระโดดขึ้นมาถึง 163 ล้านตัน

ความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลและการส่งข้อมูลในประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานออนไลน์ 800 ล้านคนและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กำลังเฟื่องฟู มีดาต้าปริมาณมหาศาลในรูปของภาพถ่าย คลิปวิดีโอ และธุรกรรมออนไลน์

เย่รุ่ยฉี นักรณรงค์ด้านภูมิอากาศและพลังงานของ Greenpeace สาขาเอเชียตะวันออก กล่าวว่า ขณะที่อุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลของจีนมีการปรับปรุงที่สำคัญในแง่ของประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แต่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลของภาคอุตสาหกรรมตอกย้ำว่าจีนยังต้องปรับปรุงเรื่องนี้อีกมาก และปัจจุบันศูนย์ข้อมูลของจีนขาดความตระหนักเรื่องความรับผิดชอบต่อปัญหาโลกร้อน

ทั้งนี้ ตามรายงานของ Greenpeace การใช้ไฟฟ้าจากอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลของจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 66% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ภายในปี 2023 อุตสาหกรรมนี้จะใช้ไฟฟ้าเกินปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของออสเตรเลีย

จีนไม่รายเดียวที่ต้องเผชิญกับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อเข้าถึงข้อมูลออนไลน์อย่างรวดเร็ว และใช้ไฟฟ้าในการให้ความเย็นกับเซิร์ฟเวอร์ แต่วิธีการแก้ปัญหาของ Microsoft ก็คือตั้งศูนย์ข้อมูลใต้ทะเลเหนือ ที่สก็อตแลนเพื่อให้น้ำทะเลที่มีความเย็นจัดในบริเวณนั้นช่วยให้ความเย็นกับเซิร์ฟเวอร์

ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีนคือ Alibaba ตั้งศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นสบายทางตอนเหนือของมณฑลเหอเป่ยพร้อมติดตั้งการเข้าถึงพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์