posttoday

ไม่ได้มีแค่ชิปกับเดลสองพี่น้อง เปิดกรุดิสนีย์ทำหนังชื่นชมเมืองไทย

02 กรกฎาคม 2562

หากจะลองไล่ดูคลิปในช่องยูทูบของดิสนีย์ จะพบว่ามีไม่กี่คลิปหรือเรื่องราวที่ดิสนีย์อุทิศให้กับประเทศๆ หนึ่งแบบเต็มที่เหมือนกับเมืองไทย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกดิสนีย์สนใจเมืองไทยถึงขนาดนี้

 

หลังจากดิสนีย์เผยคลิป Our Floating Dreams ที่ใช้ฉากตลาดน้ำในประเทศไทย ตอนแรกความสนใจอยู่ที่เรื่องราวของตัวเองคือมิกกี้เมาส์กับมินนี่เมาส์ ที่รับบทพ่อสับปะรด กับแม่ค้าขาวผัด แต่ตอนนี้ความสนใจพุ่งมาอยู่ที่เพลงของชิปแอนด์เดลที่ร้องว่า "ชิปกับเดลมีสองพี่น้องขายของในคลอง ฯลฯ" ที่ฮิตกันจนสลัดออกจากหัวไม่ได้

หากจะลองไล่ดูคลิปในช่องยูทูบของดิสนีย์ จะพบว่ามีไม่กี่คลิปหรือเรื่องราวที่ดิสนีย์อุทิศให้กับประเทศๆ หนึ่งแบบเต็มที่เหมือนกับเมืองไทย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกดิสนีย์สนใจเมืองไทยถึงขนาดนี้

หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่เก็บภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก @ThaiFilmArchivePage ว่า เมื่อปี 2474 ดิสนีย์เคยถ่ายทำภาพยนต์/การ์ตูนเกี่ยวกับเมืองไทยมาแล้วคือ Around the World in 80 Minutes with Douglas Fairbanks

หอภาพยนตร์บรรยายว่า เรื่องนี้ภาพยนตร์เสียงเรื่องแรกของ ดักลาส แฟร์แบงก์ส ซีเนียร์ ดาราและผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อก้องโลกของฮอลลีวูด เขาเป็นดาราหนังคนโปรดของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ซึ่งพระองค์เคยเสด็จไปเยือนที่ฮอลลีวูดและทรงเชิญเขาให้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในสยาม แฟร์แบงก์สจึงวางแผนเดินทางรอบโลกเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เชิงนำเที่ยวไปตามประเทศต่าง ๆ ในเวลา 80 นาทีของภาพยนตร์ซึ่งใช้ชื่อว่า 80 นาทีรอบโลกไปกับดักลาส แฟร์แบงก์ส

เขาเข้ามาสยามในเดือนมกราคม 2473 ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ได้รับการดูแลและความร่วมมือในการถ่ายทำในสยามอย่างดี ก่อนสยามเขาไปจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ แล้วมาสยาม ไปเขมร ไปมลายู แล้วไปอินเดีย ก่อนจะกลับไปฮอลลีวูดครบวิถีรอบโลก เขาพาผู้ชมไปชมสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายใคร่ชม คือวัดวาอาราม เช่น วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร พาไปดูช้างเผือกซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง ดูบ้านชมเมืองซึ่งได้ชื่อว่าเวนิสตะวันออก ดูสวนงูที่สถานเสาวภา ดูมวยไทย ดูการเตะตะกร้อ ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ได้เล่นกอล์ฟที่สนามวังสวนจิตรลดา และสุดท้ายดูรำไทย

ก่อนจะทิ้งทีเด็ดด้วยการเรียกมิกกี้เมาส์ที่เพิ่งจะโด่งดังในโลกมายาออกมาร่ายรำด้วยลีลาเพลงมโหรีไทย แฟร์แบงก์สได้ส่งฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้มาถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ซึ่งต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติขึ้น ผู้เก็บรักษาฟิล์มนี้ได้บริจาคฟิล์มให้เป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ

นอกจากนี้โพสต์ทูเดย์ยังพบว่าดิสนีย์ยังมีภาพยนต์ที่เกี่ยวกับไทยอีกจำนวนหนึ่ง เช่น Siam เมื่อปี 1954 เป็นภาพยนต์สีแบบ Technicolor มีความยาว 30 นาที ให้เป็นสารคดีที่เกี่ยวกับประเทศสยาม หรือประเทศไทย นอกจากภาพยนต์แล้วยังทำเป็นหนังสือ 81 หน้าพร้อมภาพถ่ายเมืองไทยในช่วงพ.ศ. 2500