นายกฯ ไทยเป็น "ทหาร" นายกฯ ภูฏานเป็น "หมอ"
“คนอื่นอาจจะออกรอบตีกอล์ฟ หรือยิงธนู แต่ผมชอบการผ่าตัด ผมใช้เวลาช่วงวันหยุดในโรงพยาบาล มันเป็นการคลายเครียดในแบบของผม”
โดย จารุณี นาคสกุล
โลเท เชอร์ริง นายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของภูฏาน เพิ่งได้รับตำแหน่งเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว หลังชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 3 ของประเทศนับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเมื่อปี 2008
แต่นอกจากหน้าที่ในการบริหารประเทศในวันธรรมดาแล้ว ในวันหยุดสุดสัปดาห์นายกรัฐมนตรีวัย 50 ปีคนนี้ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือการเป็นแพทย์ ที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักของชาวภูฏาน
ภาพ : Upasana DAHAL/AFP
ทุกๆ วันเสาร์โลเทจะถอดหัวโขนนายกรัฐมนตรี มาสวมหัวโขนเป็นศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะประจำโรงพยาบาลแห่งชาติ Jigme Dorji Wangchuck National Referral Hospital ในกรุงทิมพู ออกรักษาคนไข้เช่นแพทย์คนอื่นๆ นอกจากนี้ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี โลเทจะเจียดเวลาให้กับการอบรมให้คำแนะนำทางการแพทย์แก่หมอและนักศึกษาฝึกหัดด้วย
หนังสือพิมพ์ The Bhutanese รายงานว่า เขามักจะใช้เวลาในวันเสาร์อยู่ในโรงพยาบาลราว 15-18 ชั่วโมง มากว่า 10 ปีแล้ว
นายกรัฐมนตรีภูฏานเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “คนอื่นอาจจะออกรอบตีกอล์ฟ หรือยิงธนู แต่ผมชอบการผ่าตัด ผมใช้เวลาช่วงวันหยุดในโรงพยาบาล มันเป็นการคลายเครียดในแบบของผม”
ภาพ : Upasana DAHAL/AFP
โลเทคว้าดีกรีทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัยธากาของบังกลาเทศตั้งแต่ปี 2001 ตามด้วยการเข้าศึกษาต่อด้านระบบทางเดินปัสสาวะทั่วไปในวิทยาลัยการแพทย์วิสคอนซินของสหรัฐ โดยได้รับทุนการศึกษาจากองค์การอนามัยโลก เมื่อเดินทางกลับไปยังภูฏานในตอนนั้น เขาเป็นศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะที่ผ่านการฝึกฝนอบรมมาแล้วเพียงคนเดียวในประเทศที่มีประชากรราว 750,000 คน
ต่อมาในปี 2010 โลเท เข้าศึกษาต่อด้านการผ่าตัดทางเดินปัสสาวะโดยใช้กล้องส่องตรวจจากโรงพยาบาลทั่วไปสิงคโปร์และมหาวิทยาลัยโอกะยะมะของญี่ปุ่น
ภาพ : เฟซบุ๊ค Thank You Dr.Lotay
หนังสือพิมพ์ Daily Bhutan รายงานว่า เมื่อครั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูดที่เนปาลเมื่อปี 2015 โลเทยังเป็นหนึ่งในอาสาสมัครจากภูฏานที่เดินทางไปช่วยเหลือคนในพื้นที่อีกด้วย ด้วยความเสียสละทั้งหลายนี้ สมเด็จพระราธิบดีจิกมีได้ทรงยกย่องให้เขาเป็น “ลูกชายหัวใจแห่งภูฏาน” (Druk Thuksey) เมื่อปีที่แล้ว จากการอุทิศตัวและเสียสละเพื่อพระมหากษัตริย์ เพื่อประเทศ และประชาชนชาวภูฏาน
ภาพ : เฟซบุ๊ค Thank You Dr.Lotay
นายแพทย์ผู้นี้เริ่มเข้าสู่การเมืองเมื่อปี 2013 แต่พรรคของเขาไม่สามารถคว้าชัยจากการเลือกตั้งในปีนั้น สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก จึงทรงเรียกตัวโลเทเข้าเป็นหัวหน้าทีมแพทย์เคลื่อนที่เพื่อออกรักษาประชาชนในชนบทห่างไกลระหว่างปี 2014-2018
และในที่สุดเขาก็ชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรีของภูฏานเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ละทิ้งหน้าที่ศัลยแพทย์ แม้แต่ในห้องทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลยังมีเสื้อกาวน์แขวนอยู่ด้านหลังของเก้าอี้ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “เสื้อกาวน์ตัวนี้จะได้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเคยหาเสียงกับประชาชนไว้ว่าจะให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนทั้งประเทศ”
ในฐานะที่เคยผ่านมาทั้งการทำงานในวงการแพทย์และวงการการเมือง นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัยเผยว่า การเป็นนักการเมืองค่อนข้างเหมือนการเป็นแพทย์ “อยู่ในโรงพยาบาลผมตรวจและรักษาคนไข้ อยู่ในรัฐบาลผมตรวจนโยบายและพยายามปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น”
และยืนยันว่าจะทำหน้าที่แพทย์ต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่