posttoday

กอร์ดอน วู ชายที่กำลังจะรวยมหาศาลเพราะความสะเพร่าของไทย

23 เมษายน 2562

เขาคือผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริษัทโฮปเวลล์ ผู้ที่รัฐบาลไทยจะต้องจ่ายค่าโง่ให้นับหมื่นล้าน

 

ตอนนี้ โฮปเวลล์เป็นชื่อที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับคนไทยมากที่สุด หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รัฐบาลไทย โดยกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องจ่ายเป็นค่าเสียหายให้บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) สิ้นสุดมหากาพย์ค่าโง่ข้ามทศวรรษ มูลค่า 12,000 ล้านบาท

แต่ยังมีอีกชื่อหนึ่งที่คนไทยจะต้องจดจำไว้ คือชายที่ชื่อกอร์ดอน วู ประธานบริษัทโฮปเวลล์

กอร์ดอน วู มีชื่อเต็มว่า เซอร์ กอร์ดอน หูอิงเซียง (Sir Gordon Ying Sheung WU) เป็นนักธุรกิจที่สร้างตัวเองจากหนึ่งสมองและสองมือ (แม้จะมีพื้นเพครอบครัวที่ค่อนข้างมีอันจะกินก็ตาม) เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้กุมบังเหียนบริษัทก่อสร้างสาธารณูปโภคชั้นนำของฮ่องกงและของจีน และยังมีไลฟ์สไตล์ที่หวือหวา เช่น เคยประมูลเห็ดทรัฟเฟิลที่มีราคาแพงที่สุดในโลก น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ราคาสูง 125,000 ยูโร

จากข้อมูลของ Forbes ปัจจุบัน วู วัย 83 ปี มีทรัพย์สิน 1,700 ล้านเหรียสหรัฐ ได้รับบรรดาศักดิ์จากสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษให้เป็นท่านอัศวิน หรือเซอร์ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น Order of St. Michael and St. George เมื่อปี 1997 ในฐานะที่มีคุณูปการด้านสาธารณูปโภคในเอเชีย และได้รับการยกย่องจากสถาบันและหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

กอร์ดอน วู ชายที่กำลังจะรวยมหาศาลเพราะความสะเพร่าของไทย ประวัติของกอร์ดอน วู ในเว็บไซต์ของ The Wharton School at the University of Pennsylvania

สำหรับประวัติคร่าวๆ ในเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า วูสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สาขาวิศวกรรม ในปี 1958 และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท เป็นกรรมการผู้จัดการตั้งแต่ปี 1972 - 2001 มีหน้าที่ดูแลโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในสาธารณรัฐประชาชนจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีส่วนร่วมในการออกแบบและก่อสร้างอาคารและโครงการพัฒนาจำนวนมากในฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน และในประเทศต่างๆ รวมถึงโรงไฟฟ้า Shajiao B ในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งได้รับรางวัล British Construction Industry Award จากประเทศอังกฤษ รวมถึงสร้างสถิติโลกด้วยการทำโครงการแล้วเสร็จภายในเวลาเพียง 22 เดือน (แต่โครงการโฮปเวลล์จนบัดนี้ กินเวลานานถึง 29 นับตั้งแต่ทำสัญญา)

วู ไม่ใช่ธรรมดาเพราะมีเส้นสายในวงการเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะในจีน เขาเป็นสมาชิกของคณะกรรมการที่ประชุมปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติของจีน (CPPCC) ตั้งแต่ปี 1983 - 2013 และรองประธานคณะกรรมการประสานงานกับฮ่องกง-มาเก๊า-ไต้หวัน และจีนโพ้นทะเล (คณะกรรมการพิเศษของ CPPCC) ระหว่างปี 2003 - 2013 ที่สำคัญก็คือ เขาผู้นี้เป็นเจ้าของไอเดียโครงการก่อสร้างสะพานฮ่องกง–จูไห่–มาเก๊า โดยเสนอให้ทางการกวางตุ้งและรัฐบาลกลางที่ปักกิ่ง ให้สร้างสะพานแห่งนี้ในปี 1988 และแล้วเสร็จในปี 2018

นอกจากนี้ บรรดาโครงการก่อสร้างใหญ่ในเอเชียที่ทำท่าว่าจะไปไม่รอด เขาก็ทำให้รอดมาแล้วทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงที่ยากลำบาก และเคยสาบานว่า ถ้าโครงการที่เขารับสัมปทานมาไม่แล้วเสร็จตามกำหนด เขาจะยอมเสี่ยงชีวิตลงไปว่ายน้ำในอ่าวฮ่องกงที่แสนจะสกปรก ความสำเร็จของเขาในการผลักดันโครงการต่างๆ ในเอเชียจนไปตลอดรอดฝั่งทำให้เขาได้รับฉายาว่า "คุณชายซ่อมได้แห่งเอเชีย" (Asia’s Mr. Fix-It) ขณะที่ประธานาธิบดีฟิเดล รามอส แห่งฟิลิปปินส์ยังชมเชยเขาว่าเป็น "บุรุษผู้มอบแสงสว่าง" (the man who turned the lights on)

กอร์ดอน วู ชายที่กำลังจะรวยมหาศาลเพราะความสะเพร่าของไทย ประวัติของกอร์ดอน วู ในเว็บไซต์ของ Hopewell Holdings Limited


วู ที่เคยผลักดันโครงการต่างๆ ในเอเชียผ่านวิกฤตมาแล้ว ต้องมาถูกปราบเซียนในเมืองไทย เมื่อสะดุดกับโครงการโฮปเวลล์นานข้ามทศวรรษเพราะความสะเพร่าบางประการ

ความสะเพร่าที่ว่านี้อาจเกิดขึ้นจากการทำสัญญาที่กำกวมและหละหลวม หนังสือพิมพ์ International Herald Tribune รายงานเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 1998 ว่า

"โครงการของ วู ได้รับอนุมัติในปี 1990 โดยไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เริ่มการก่อสร้างก่อที่จะเวนคืนที่ดินตามแนวเส้นทาง และไม่มีกำหนดเวลาชัดเจนว่าโครงการจะแล้วเสร็จเมื่อใด วู ฟ้องร้องทางการไทยเรื่องความคืบหน้าของโครงการ เมื่อปีที่แล้ว (1997) มีเพียง 10% ของโครงการเท่านั้นที่แล้วเสร็จ รัฐบาลไทยจึงระงับสัญญาของโฮปเวลล์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยกล่าวว่า วูไม่มีเงินแล้ว ส่วน วูโทษความไม่มีเสถียรภาพของการเมืองไทย จนทำให้การเวนคืนที่ดินล่าช้า นับตั้งแต่ปี 1990 ประเทศไทยมีการก่อรัฐประหารเฉลี่ยปีละครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหลายครั้ง" (จากรายงานข่าวเรื่อง Thais Revisit a Troubled Mass-Transit Project)

จากรายงานข่าวของสื่อชั้นนำระดับโลก จะเห็นได้ว่า ค่าโง่ของโครงการโฮปเวลล์เกิดจากการทำสัญญาโดยไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้, ไม่มีกำหนดแล้วเสร็จที่แน่ชัด, การเกิดรัฐประหารบ่อยครั้ง และการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบ่อยครั้ง ในสายตาคนนอก ทั้งหมดล้วนแต่เป็นสาเหตุมาจากประเทศไทยทั้งสิ้่น

แต่สำหรับรัฐบาลไทย ความผิดทั้งหมดอยู่ที่วู อย่างที่ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโฮปเวล์เป็น Hopeless Holdings หรือ บริษัทที่สิ้นหวัง (อ้างจาก Stephen Vines, "Wu do you think you are kidding?", หนังสือพิมพ์ Independent พฤศจิกายน 1995)

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามทุกอย่างมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว กอร์ดอน วู รับทรัพย์ไปจนได้เพราะความสะเพร่าของบางคนในประเทศไทย แต่สำหรับหลายคนคงจะอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า

นี่คือความสะเพร่าหรือจงใจกันแน่?