นายพลผู้หญิง? คาซิมีร์ ปูลอสกี วีรบุรุษสงครามที่มีทั้งหญิงและชายในร่างเดียว
พบหลักฐานยืนยันว่านายพล คาซิมีร์ ปูลอสกี วีรบุรุษของทั้งคนอเมริกันและโปแลนด์ อาจะเป็นผู้หญิง หรือมีภาวะเพศกำกวม
พบหลักฐานยืนยันว่านายพล คาซิมีร์ ปูลอสกี วีรบุรุษของทั้งคนอเมริกันและโปแลนด์ อาจะเป็นผู้หญิง หรือมีภาวะเพศกำกวม
นายพลปูลอสกีเกิดในกรุงวอร์ซอของโปแลนด์ในปี 1745 ในครอบครัวคาทอลิก ถูกเลี้ยงดูมาแบบผู้ชายที่ศึกษาเล่าเรียนทั้งการต่อสู้และขี่ม้า ทั้งยังใฝ่รู้เรื่องการเมืองตั้งแต่ยังเยาว์ จนวันหนึ่งกองทัพรัสเซียบุกโปแลนด์ นายพลปูลอสกีได้เข้าร่วมต่อสู้กับทหารรัสเซียจนถูกรัสเซียหมายหัวและต้องหนีไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศสในปี 1772 ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ เบนจามิน แฟรงคลิน หนึ่งในบิดาผู้สร้างชาติของสหรัฐ
ต่อมาในปี 1777 นายพลปูลอสกีได้เดินทางมายังสหรัฐเพื่อเข้าร่วมกองทัพและช่วยก่อตั้งกองทหารม้าตามคำเชิญชวนของแฟรงคลิน ในปีเดียวกันก็ร่วมสู้รบกับของทัพอังกฤษในสงครามปฏิวัติอเมริกา และมีโอกาสช่วยชีวิต จอร์จ วอชิงตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะถูกทหารอังกฤษจบกุมตัวเนื่องจากถูกตีพ่ายแพ้
ปี 1779 นายพลปูลอสกีได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบกับอังกฤษในยุทธการยึดเมืองสะวันนาห์ ในรัฐจอร์เจีย และเสียชีวิตบนเรือในอีกไม่กี่วันให้หลังในวัย 34 ปี จากวีรกรรมเหล่านี้ทำให้นายพลผู้นี้ได้รับการยกย่องให้เป็นทั้งฮีโร่ในสหรัฐและโปแลนด์บ้านเกิด
ทว่าในสารคดีเรื่อง The General Was Female? (นายพลเป็นผู้หญิง?) ที่เผยแพร่โดยสาบันสมิธโซเนียนของสหรัฐ กลับมีหลักฐานยืนยันว่านายพลปูลอสกีที่ออกรบอย่างห้าวหาญนั้นเป็นผู้หญิง หรืออาจมีภาวะเพศกำกวม (Intersex) คือคนที่เกิดมาพร้อมกับลักษณะทางเพศ เช่น โครโมโซม ฮอร์โมน หรืออวัยวะเพศที่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
อันที่จริงนักวิทยาศาสตร์พบว่ากระดูกของนายพลปูลอสกีมีลักษณะเหมือนคนเพศหญิงมากกว่าเพศชายที่เคยเข้าใจกันตั้งแต่ 20 กว่าปีก่อนแล้ว แต่วิทยาการสมัยนั้นยังไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ว่าโครงกระดูกที่พบนั้นเป็นตัวนายพลปูลอสกีจริงๆ
กระดูกของนายทหารม้าชาวโปแลนด์ถูกเก็บไว้ในกล่องเหล็กและบรรจุอยู่ใต้อนุสาวรีย์ในเมืองสะวันนาห์ รัฐจอร์เจีย ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเขาในปี 1854 แต่ต่อมามีการบูรณะอนุสาวรีย์จึงมีการนำกระดูกของนายพลปูลอสกีออกมาศึกษาโดย ชาร์ลส์ เมิร์บ นักนิติมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา และแคเรน เบิร์นส์ นักนิติวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย
แล้วทั้งคู่ก็พบกับเรื่องสุดช็อกว่า กระดูกที่ตัวเองศึกษามีลักษณะของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยจุดเด่นชัดที่บ่งชี้ความแตกต่างกระหว่างกระดูกผู้ชายและผู้หญิงก็คือ กระดูกเชิงกราน อุ้งเชิงกรานของผู้หญิงจะมีลักษณะเป็นรูปไข่ ส่วนของผู้ชายจะรูปทรงคล้ายรูปหัวใจ และเมื่อตรวจลึกไปถึงร่องรอยการบาดเจ็บก็พบว่ามีลักษณะของคนที่เคยขี่ม้าและผ่านสงครามมาก่อน ซึ่งตรงกับวิถีชีวิตของนายพลปูลอสกี
จุดนี้จึงเกิดความถามตัวใหญ่ๆ ขึ้นมาว่า กระดูกที่นำมาศึกษาเหล่านั้นใช่ของนายพลชาวโปแลนด์-อเมริกันหรือไม่
แต่ครั้งนั้นนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวตนของนายพลปูลอสกีได้ เนื่องจากวิทยาการยังไม่ก้าวหน้าพอ การค้นพบของพวกเขาจึงยังเป็นได้เพียง “ความคิดเห็น” จนเมื่อเร็วๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์อีกทีมหนึ่งได้จัดการทดสอบดีเอ็นเออีกครั้งโดยเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของนายพลกับทายาทที่เป็นเหลนผู้หญิง และพบว่ากระดูกที่มีลักษณะเหมือนผู้หญิงคือกระดูกของนายพลปูลอสกีของแท้แน่นอน
ทว่าเมื่อมองย้อนกลับไปชีวิตของนายพลปูลอสกีถูกเลี้ยงมาแบบผู้ชาย เข้ารบในสงคราม และรูปลักษณ์ภายนอกก็แสดงว่าเป็นผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นหนวด รูปแบบการล้านของศีรษะ ทีมของ เวอร์จิเนีย ฮัตตัน เอสตาบรูค ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียเซาเทิร์น จึงสรุปว่า นายพลปูลอสกีมีลักษณะของเพศกำกวม
การค้นพบความจริงครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสในการศึกษาประวัติศาสตร์ส่วนที่ยังไม่มีการเปิดเผยหรือยืนยัน เนื่องจากยังมีกรณีอื่นอีกที่พบว่าโครงกระดูกเป็นเพศหนึ่ง แต่ข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกฝังอยู่ด้วยเป็นของอีกเพศหนึ่ง อย่างในปี 2017 ที่นักวิชาการประกาศว่าสุสานของชาวไวกิ้งในสวีเดนมีโครงกระดูกของผู้หญิง ซึ่งในครั้งนั้นเหมือนเป็นการยืนยันทฤษฎีที่ว่าในหมู่นักรบชาวไวกิ้งก็มีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย แต่ยังไม่เคยมีการสรุปว่าเป็นคนที่มีภาะเพศกำกวมมาก่อนเลย