posttoday

ฝาหลอกลิ้น แค่มีก็หวานได้ไม่ง้อน้ำตาล

30 มีนาคม 2562

น้ำตาลคือตัวร้ายทำลายสุขภาพ แต่เราก็ขาดไม่ได้

น้ำตาลคือตัวร้ายทำลายสุขภาพ แต่เราก็ขาดไม่ได้

ปัจจุบันเบาหวานถือเป็นโรคยอดฮิตที่เป็นกันได้ทุกเพศทุกวัย เป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาด และมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน โดยมีการคาดการณ์ของสหพันธ์เบาหวานนานาชาติว่า ในอีก 22 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากถึง 642 ล้านคนเลยทีเดียว นอกจากเบาหวานก็ยังมีโรคความดันโลหิตสูงอีกด้วย ที่ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ฝาหลอกลิ้น แค่มีก็หวานได้ไม่ง้อน้ำตาล

หลายๆ คนที่หวาดกลัวกับโรคเหล่านี้ จึงอยากจะลดการบริโภคน้ำตาลเพื่อสุขภาพ หรือเพื่อการคุมน้ำหนักที่หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลด้วย อย่างไรก็ตาม การอดหวานเป็นอะไรที่ยากและท้าทายมาก เพราะความหวานมีปฏิกิริยาต่อประสาทแบบเดียวกับสารเสพติดอย่างหนึ่ง ดังนั้น การบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาล จึงเป็นทางเลือกยอดฮิตของคนเหล่านี้

แม้ว่าสารให้ความหวานจะมีหลายชนิดให้เลือกอย่างแพร่หลาย แต่แต่ละชนิดก็มีข้อจำกัดต่างกัน เช่น แอสปาแตมไม่สามารถใช้ปรุงอาหารร้อน เพราะจะทำให้โมเลกุลเปลี่ยน

ซุคราโคสสามารถทำให้กระเพาะไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น และหญ้าหวานถึงแม้จะปลอดภัย แต่หาซื้อยากและราคาสูง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จุดประกายให้คู่หูทางธุรกิจวัยมัธยมจับมือกันสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพ มาตอบโจทย์คนติดรสหวานในเครื่องดื่ม

ซาร่า ดู และ ไซมอน ซิรุอิ กูโอะ เป็นสองวัยรุ่นมัธยมปลายจากลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐ และเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ทั้งคู่โคจรมาพบกันในงานพัฒนาซอฟท์แวร์แห่งหนึ่ง ด้วยความที่พวกเขามีความสนใจในซอฟท์แวร์เออาร์ และกาแฟเหมือนกัน จึงหันมาร่วมกันพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่จะเป็นทางออกให้คนติดรสหวานในกาแฟ โดยใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วย

สาเหตุที่พวกเขาเริ่มจากกาแฟ ก็เพราะการบริโภคกาแฟเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวอเมริกัน และมีการบริโภคมหาศาล หลายคนใส่น้ำตาลเพิ่มลงในเครื่องดื่มของตนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเจ้าน้ำตาลในกาแฟนี่แหละเป็นตัวอันตรายต่อสุขภาพของเรา

ฝาหลอกลิ้น แค่มีก็หวานได้ไม่ง้อน้ำตาล

สิ่งที่สองวัยรุ่นสร้างขึ้นมาทดแทนการบริโภคน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน มีชื่อว่า Sweetbud ซึ่งเป็นฝากาแฟที่สามารถเลียนแบบรสหวานของน้ำตาล โดยผู้ดื่มไม่ต้องแตะน้ำตาลแม้แต่น้อย เจ้าฝาสวีทบัดนี้ทำงานด้วยการใช้ระบบไฟฟ้าที่ไม่เป็นอันตรายมากระตุ้นลิ้นและระบบประสาทของเรา ให้เชื่อว่ากำลังรับรสหวานอยู่

ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเออาร์หรือความเป็นจริงเสริม มาผสมผสานกับการรับรสและการกินเป็นเจ้าแรกในตลาดเลยด้วย นอกจากนี้ ความเจ๋งของสวีทบัดยังมีอีกเพียบ เช่น สามารถลิงค์กับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่ซึ่งเราสามารถกำหนดระดับความหวานที่เราต้องการ และคำนวณว่าสวีทบัดช่วยเราไม่ให้บริโภคน้ำตาลจริงในปริมาณแค่ไหน

เจ้าตัวสวีทบัดนี้ ยังสามารถใช้ได้ซ้ำๆ เพราะนำมาล้างทำความสะอาดได้ เนื่องจากกันน้ำและความร้อน ส่วนพลังงานไฟฟ้าของมันก็ได้มาจากการชาร์จแบต ที่สำคัญมันสามารถที่จะสวมครอบแก้วกาแฟขนาดต่างๆ ของร้านกาแฟทั่วไป เช่น สตาร์บัคส์ ได้อย่างสบายๆ เลยด้วย

วิธีใช้ก็ง่ายๆ เพียงแค่ครอบกาแฟแก้วโปรด กดปุ่มเปิด จากนั้นเมื่อคุณยกแก้วขึ้นดื่มโดยอมหลอดอมและให้ลิ้นอยู่ข้างใต้หลอดอม กระแสไฟฟ้าจะถูกส่งมาทำให้คุณได้รับรสหวานทันที

แม้ปัจจุบันสวีทบัดยังไม่ได้พัฒนาออกสู่ท้องตลาดเต็มขั้น แต่นับว่าเป็นก้าวแรกที่น่าสนใจมากสำหรับการใช้เทคโนโลยีมาปรับแต่งการรับรู้รสชาติอาหารในอนาคต อาจจะไม่ได้มีเพียงแค่ฝากาแฟเท่านั้นที่แต่งเติมรสชาติให้เครื่องดื่มได้ เราอาจจะได้เห็นจาน ชาม ช้อน ส้อม ที่เพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อยและหลากหลายขึ้น โดยไม่เสียสุขภาพก็เป็นได้

ฝาหลอกลิ้น แค่มีก็หวานได้ไม่ง้อน้ำตาล

ภาพ : www.sweetbud.co, studentstartupmadness.com