ชาวอังกฤษนับล้านเดินขบวนประท้วงเบร็กซิต

รัฐบาลอังกฤษอาจพิจารณาจัดลงประชามติเบร็กซิตครั้งที่สอง

ประชาชนชาวอังกฤษหลายแสน จนอาจถึงล้านคน ออกมาเดินขบวนครั้งใหญ่ในกรุงลอนดอนเพื่อประท้วงการใช้มาตรา 50 ในสนธิสัญญาลิสบอนในประเด็นการออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป แม้ว่าจะชัดเจนแล้วว่าอังกฤษจะไม่มีทางออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปภายในเส้นตายวันที่ 29 มีนาคมนี้อย่างแน่นอน

อันเป็นผลจากการที่นางเทเรซา เมย์เรียกร้องให้สหภาพยุโรปผ่อนคลายการใช้มาตรา 50 กับอังกฤษ โดยทางที่ประชุมสมัชชาอียู ยืนข้อเสนอเส้นตายเบร็กซิตให้อังกฤษไปจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคมหากสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษลงมติให้ความเห็นชอบข้อตกลงเบร็กซิทในสัปดาห์หน้า ซึ่งทางสภาอังกฤษได้โหวตไม่รับร่างเบร็กซิตของนางเมย์มาแล้วก่อนหน้านั้นถึง 2 ครั้ง

แต่หากสภาอังกฤษไม่สามารถรับร่างเบร็กซิตได้อีกเป็นครั้งที่ 3 อียูจะกำหนดเส้นตายเบร็กซิตเป็นวันที่ 12 เมษายนในทันทีโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ หรือ โนดีล

เรื่องดังกล่าวส่งผลให้เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) ประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงในหลายพื้นที่ของกรุงลอนดอน ตั้งแต่พื้นที่หน้ารัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ ผ่านย่านไวท์ฮอลล์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการรัฐบาลหลายหน่วยงาน ไปยังจตุรัสทราฟัลกา ถึงย่านพิคาเดลี่ จนไปสิ้นสุดที่ไฮด์ปาร์ก ซึ่งผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เรียกร้องให้ยกเลิกเบร็กซิตที่อาจเกินขึ้นภายในเดือนเมษายน รวมถึงเรียกร้องให้มีการจัดการลงประชามติเบร็กซิตครั้งที่สอง

สอดคล้องกับที่เว็บไซต์ของรัฐสภาอังกฤษพบว่ามีผู้ลงชื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกระบวนการเบร็กซิตสูงถึงกว่า 4 ล้านรายชื่อแล้ว

ด้านนายฟิลิป แฮมมอนด์ รมว.คลังของอังกฤษรวมถึงเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีอาวุโสในรัฐบาลนางเมย์ระบุว่าส่วนตัวเขาอาจพิจารณาทางเลือกในการลงประชามติเบร็กซิตเป็นครั้งที่สอง แต่นี่เป็นเพียงข้อคิดเห็นของเขาเท่านั้นไม่ใช่มติของรัฐบาล

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่านางเทเรซา เมย์ กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักในจากบรรดาแกนนำอาวุโสในพรรคอนุรักษ์นิยมที่กำลังเรียกร้องให้เธอเปลี่ยนจุดยืนเบร็กซิต เนื่องจากนางเมย์ต้องการให้อังกฤษออกจากเบร็กซิตในรูปแบบ"มีข้อตกลง"เท่านั้น หรืออาจกดดันให้เธอต้องลาออก