posttoday

ทำไมเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯครั้งนี้จึงสำคัญ

06 พฤศจิกายน 2561

เลือกตั้งกลางเทอมสภาคองเกรง อาจพลิกผันดุลอำนาจการเมืองในวอชิงตัน

เลือกตั้งกลางเทอมสภาคองเกรง อาจพลิกผันดุลอำนาจการเมืองในวอชิงตัน

การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ หรือ midterm election นั้น หมายถึงการเลือกตั้งในช่วงครึ่งวาระของการดำงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งไม่เพียงแค่จะมีการเปลี่ยนสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้ง 435 คนเท่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ยังรวมไปถึง 33 วุฒิสภาสหรัฐ ผู้ว่าการรัฐจากอีก 36 รัฐ และสภาในระดับท้องถิ่นของหลายรัฐด้วย

ซึ่งในปัจจุบันนั้น พรรครีพับลิกกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาสหรัฐ จึงส่งผลดีต่อการดำเนินนโยบายต่างภายใต้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แต่ทว่า หลายครั้งที่การบริหารของปธน.ทรัมป์ล้วนเต็มไปด้วยข้อครหาจากหลายส่วนโดยเฉพาะทางฝั่งคู่แข่งอย่างพรรคเดโมแครต ซึ่งขณะนี้เป็นพรรคฝ่ายค้านในทั้งสองสภา และทางเดโมแครตต้องการเสียงในสภาผู้แทนฯอีกเพียง 23 ที่นั่ง เพื่อที่จะสามารถคุมเสียงข้างมาก ก็เริ่มจะมีหวังมากขึ้น

 

ทำไมเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯครั้งนี้จึงสำคัญ

 

เนื่องจาก ในประวัติศาสตรการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐหลายครั้งที่ผ่านมานั้น หลายครั้งที่พรรคซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาอยู่จะเสียคะแนน เหตุด้วยที่ว่าคะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีลดลง ซึ่งสำหรับปธน.ทรัมป์นั้นขณะนี้มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 40% จากผลสำรวจในเดือนพฤศจิกายนของสำนักโพล Gallup

อีกทั้งการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองอย่างมากของคนอเมริกัน โดยเฉพาะฝ่ายที่สนับสนุนรีพับลิกกัน ซึ่งเป็นอนุรักษ์นิยม กับฝ่ายที่สนับสนุนเดโมแครต ซึ่งเป็นเสรีนิยม

 

ทำไมเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯครั้งนี้จึงสำคัญ

 

 

ซึ่งที่ผ่านมานั้น พรรคเดโมแครตมักให้ความสนใจกับประเด็นประกันสุขภาพ ความแตกต่างทางเศรษฐกิจ รวมถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่รีพับลิกกันจะมุ่งเน้นประเด็นเรื่องความมั่นคง ผู้อพยพ รวมถึงการค้าและเศรษฐกิจในประเทศมากกว่า

โดยตลอดที่ปธน.ทรัมป์เดินสายช่วยลูกพรรคหาเสียงนั้น เขาได้หยิบประเด็นเรื่องผู้อพยพเป็นประเด็นหลักในการปราศรัยโจมตีพรรคเดโมแครต ขณะที่ทางเดโมแครตได้ประณามนโบายของปธน.ทรัมป์ว่าได้สร้างความแตกแยกให้กับสังคมอเมริกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

ทำไมเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯครั้งนี้จึงสำคัญ

 

จึงเป็นที่น่าสนใจว่าการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ จะมีผู้สนใจไปลงคะแนนใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐนั้น ประชาชนชาวสหรัฐจะมองการทำงานที่ผ่านมาของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างไรตลอดสองปีที่่ผ่านมา รวมถึง จะชี้วัดด้วยว่าต้องการการเมืองรูปแบบใดในอีก 2 ปีข้างหน้า

และหากพรรคเดโมแครตชนะในสภาผู้แทนฯ นั้นจะหมายความว่า การดำเนินนโยบาลใดๆก็ตามของปธน.ทรัมป์ในอีก 2 ปี ที่เหลือนั้นจะไม่ราบรี่นอย่างแน่นอน ซึ่งจะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจทางการเมืองในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อีกครั้งหนึ่ง