ศาลเกาหลีใต้ชี้สามารถใช้ "มโนธรรมทางศาสนา" ปฎิเสธเข้าเกณฑ์ทหารได้

ศาลสูงเกาหลีใต้มีคำพิพากษา สามารถใช้เหตุผลทางศาสนา เป็นข้อยกเว้นสำหรับการเข้ารับราชการทหารได้

ศาลฎีกาของเกาหลีใต้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาให้ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ มีคำสั่งอุทธรณ์โทษให้แก่ชายรายหนึ่งที่ชื่อว่า โอ ซึงฮุน (Oh Seung-hun) วัย 34 ปี ให้พ้นจากความผิด และพิจารณาคดีของเขาใหม่หลังจากการที่เขาปฎิเสธเข้ารับราชการทหารโดยอ้างเหตุผลในด้านความเชื่อทางศาสนา เนื่องจากเขาอ้างว่าการเข้ารับราชการทหารนั้นขัดต่อหลักคำสอนในคัมภีร์ไบเบิลฉบับพยานพระยะโฮวา ที่เขานับถืออยู่

โดยคำตัดสินของศาลฎีกาในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่าน คดีดังกล่าวที่เขาสู่การพิจาณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้มีคำตัดสินเป็นครั้งแรกแล้วว่า การรับราชการทหารนั้นไม่สามารถกระทำได้ต่อผู้ที่มีความเชื่อทางศาสนาที่ขัดกับการเกณฑ์ทหาร จึงเป็นผลให้นายโอได้รับขอยกเว้นไม่ต้องเขารับการเกณฑ์ทหาร

 หัวหน้าผู้พิพากษา คิม มยองซู ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า "องค์คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดมีความเห็นส่วนใหญ่ว่า การลงโทษบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจากเหตุผลด้านความเชื่อทางศาสนา หรือที่เรียกว่า "เสรีภาพทางมโนธรรม" นั้น ถือเป็น การจำกัดเสรีภาพทางความคิดของบุคคล และเป็นภัยต่อเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์

การมีคำตัดสินครั้งนี้ นับว่าเป็นคำตัดสินที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในรอบเกือบ 50 ปี นับตั้งแต่ที่เกาหลีใต้มีบทลงโทษจำคุกถึง 3 ปี แก่ผู้ที่่ไม่ยอมเข้ารับการเกณฑ์ทหาร สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประกาศที่คงสถานะสงครามกับเกาหลีเหนืออยู่ แต่ทว่าช่วงหลังมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีเริ่มมีพัฒนาการที่ดีมากขึ้น

โดยหลายปีที่ผ่านมามีชายเกาหลีซึ่งนับถือคริสต์กลุ่มพยานพระยะโฮวา ถูกตัดสินจำคุกจากความผิดไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหารแล้วกว่า 19,000 คน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการยกเลิกการเกณฑ์ทหารในเกาหลีใต้นั้นยังคงเป็นข้อถกเถียงอย่างมาก เนื่องจากฝ่ายที่เห็นสมควรให้ยกเลิกระบุว่าการบังคับให้เกณฑ์ทหาร ขัดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ขณะที่ผ่ายสนับสนุนระบุว่าเป็นหน้าที่พลเมืองของชายชาวเกาหลีใต้