ระอุ! ขีปนาวุธหลายลูกบึ้มน่านฟ้าซีเรีย

สงครามเริ่มต้นแล้ว! สหรัฐพร้อมชาติพันธมิตรเปิดฉากโจมตีเป้าหมายหลายแห่งของซีเรีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเพียงไม่กี่นานทีหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศอนุมัติคำสั่งโจมตีซีเรีย นั้น ล่าสุดพลเอกเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้แถลงข่าวที่แพนตากิน ระบุว่าตามที่กองทัพสหรัฐได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งใช้อำนาจตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญ ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดอนุมัติปฏิบัติการโจมตีซีเรีย ในวงจำกัดเพื่อหวังผลระงับยับยั้งอาวุธเคมีของซีเรีย

 รายงานล่าสุดระบุว่ามีขีปนาวุธจำนวนหลายลูกโจมตีทำลายสถานที่สำคัญ ฐานทัพของกองทัพซีเรียในกรุงดามัสกัส และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งรายงานระบุว่าพื้นที่เหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่ พล.อ.โจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานเพนตากอนว่า สหรัฐและชาติพันธมิตร ได้เลือกโจมตีเป้าหมายด้วยความระมัดระวังที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อทหารและอาวุธของกองทัพรัสเซียที่ประจำการอยู่ในซีเรีย ซึ่งผลลัพธ์ของปฏิบัติการดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

 ด้านสำนักข่าวซานา ซึ่งเป็นสื่อทางการของรัฐบาลซีเรียระบุว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียสามารถสกัดขีปนาวุธของสหรัฐและชาติพันธมิตรได้อย่างน้อย 13 ลูก อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาประมาณ 9.00 น. (เวลาไทย) ของวันนี้ การโจมตีได้สิ้นสุดลง และยังไม่มีประกาศการโจมตีใดๆ เพิ่มเติมจากกลาโหมสหรัฐฯ

ส่วนเยอรมนีซึ่งเป็นชาติพันธมิตรฝั่งยุโรปนั้น นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีระบุว่าจะไม่ร่วมปฏิบัติการใดๆในซีเรียกับสหรัฐและชาติอื่นๆ

ท่าทีของนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่าปัญหาขัดแย้งในซีเรียที่บานปลายกลายเป็นสงครามจะพัฒนาไปสู่สงครามเย็นครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย โดยนายกูเตอร์เรสได้กล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นในนครนิวยอร์ก ว่าขณะนี้โลกกำลังเผชิญหน้ากับสงครามเย็นครั้งที่สอง ที่ความบาดหมางของสองขั้วอำนาจรุนแรงกว่าสงครามเย็นที่ผ่านมา

ภาพ .. เอพี, เอเอฟพี