posttoday

จีนหนุนต่างชาติลงทุน เคาะเชื่อมตลาดหุ้น

27 พฤศจิกายน 2559

จีนไฟเขียวเชื่อมการซื้อขายตลาดหุ้นฮ่องกง-เสิ่นเจิ้นตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เปิดทางต่างชาติลงทุนเพิ่ม

จีนไฟเขียวเชื่อมการซื้อขายตลาดหุ้นฮ่องกง-เสิ่นเจิ้นตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เปิดทางต่างชาติลงทุนเพิ่ม

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (ซีเอสอาร์ซี) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาล่วงหน้าของฮ่องกง (เอสเอฟซี) ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ระบบการซื้อขายหุ้นของตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นจะเชื่อมโยงกันนับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. ทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าไปลงทุนในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วกว่า 800 แห่งผ่านตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งเป็นความพยายามเปิดกว้างด้านการลงทุนล่าสุดของจีน ตามรอยการเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกง-เซี่ยงไฮ้ปี 2014 

แถลงการณ์ระบุว่า ซีเอสอาร์ซี และเอสเอฟซี ได้ข้อสรุปสุดท้ายเกี่ยวกับกฎควบคุมการซื้อขาย กลไกกำหนดโควตาการซื้อขายรายวัน และกระบวนการจัดการ อื่นๆ เรียบร้อยแล้ว หลังจีนประกาศอนุมัติการเชื่อมโยงตลาดหุ้นฮ่องกง-เสิ่นเจิ้นเมื่อเดือน ส.ค. พร้อมยกเลิกโควตาการซื้อขายรวมระหว่างทั้งสองตลาด 

วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นเป็นตลาดหุ้นจีนที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด อยู่ที่ 3.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 117 ล้านล้านบาท) และประกอบด้วย บริษัทจดทะเบียนในภาคเทคโนโลยีและบริการสุขภาพที่กำลังขยายตัวอย่างมาก โดย อัลวิน หลี่ นักกลยุทธ์การลงทุนจากบริษัทบริหารจัดการหลักทรัพย์ ซีเอสโอพี มองว่า ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นเป็นโอกาสการลงทุนครั้งใหม่ที่น่าสนใจ และน่าจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้มากกว่าตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ที่หุ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นบริษัทรัฐวิสาหกิจจีนที่มีอัตราการขยายตัวต่ำ

ทั้งนี้ การเริ่มเปิดระบบเชื่อมโยงการซื้อขายตลาดหุ้นฮ่องกง-เสิ่นเจิ้น ยังเป็นความพยายามส่งเสริมการใช้สกุลเงินหยวนในวงกว้างขึ้น และผลักดันให้หุ้นจีนมีโอกาสเข้าดัชนีกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ของเอ็มเอสซีไอมากขึ้น หลังจากที่เอ็มเอสซีไอปฏิเสธการรวมหุ้นจีนเข้าสู่ดัชนีดังกล่าวเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับระดับการเปิดกว้างของตลาดจีนให้นักลงทุนต่างชาติ

อย่างไรก็ดี จาง กัง หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนจากบริษัทหลักทรัพย์ เซ็นทรัล ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า การเปิดระบบการเชื่อมโยงดังกล่าวอาจส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้

ภาพ...เอเอฟพี

ข่าวล่าสุด

BDI ชี้ SMEs ไทยต้องใช้ Big Data - AI เดินหน้า The UP ปั้นธุรกิจฐานข้อมูลสู่ Data Economy