สื่อนอกวิเคราะห์เหตุบึ้มราชประสงค์ไม่น่าใช่การเมืองภายใน

สื่อชาติสิงคโปร์วิเคราะห์เหตุระเบิดราชประสงค์ไม่น่าเกี่ยวโยงกลุ่มการเมืองภายในประเทศ ชี้อาจมีกลุ่มอื่นๆที่ยังไม่ได้พิจารณา

วันที่ 19 สิงหาคม เว็บไซต์ข่าว Straits Times ได้เสนอบทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศโดยระบุว่า เหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ไม่ใช่เป็นฝีมือของกลุ่มการเมืองภายในประเทศ เนื่องจากมีรูปแบบการก่อเหตุที่แตกต่าง

นาย'แอนโธนี เดวิส'นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของนิตยสาร IHS Jan ซึ่งพำนักอยู่ในประเทศไทยได้กล่าวว่า กลุ่มการเมืองภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มการเมือง"เสื้อแดง" และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ล้วนไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วางระเบิดดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มักไม่ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในกรุงเทพและมักไม่ใช้ระเบิดรุนแรงเช่นนี้มาก่อน

ขณะที่เหตุผลที่ไม่น่าเป็นฝีมือของกลุ่มการเมืองในประเทศเนื่องจาก การก่อเหตุโดยกลุ่มการเมืองมักเป็นการส่งสัญญาณและพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งต่างจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่มุ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์

"ทางเดียวที่น่าจะเป็นไปได้คือ เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ"

ศาลพระพรหมเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมมากราบไว้ การก่อการร้ายครั้งนี้จึงมีโอกาสจะเชื่อมโยงกับการที่รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ 100 คนให้รัฐบาลจีนเมื่อเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามชาวอุยกูร์ก็ไม่เคยก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้นอกเขตแดนจีนมาก่อน ทั้งยังไม่มีความชำนาญสูง และไม่มีเครือข่ายเชื่อมโยงที่จะก่อเหตุดังกล่าวได้

ด้านดร.'ซาคารี อาบูซา'นักวิชาการอิสระด้านความมั่นคงในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็กล่าว ไม่เชื่อในทฤษฎีที่กลุ่มอุยกูร์เป็นผู้ก่อเหตุ

ดร.ซาคารีกล่าวว่า ก็อาจเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวโยงกับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่กลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่เคยก่อเหตุวางระเบิดรุนแรงและสร้างความเสียหายเช่นนี้ในกรุงเทพฯมาก่อน ทั้งยังนึกภาพไม่ออกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะใช้ศาสนสถานที่คนไทยต่างสักการะบูชาเป็นพื้นที่ลงมือ ขณะที่กลุ่มก่อความไม่สงบสามชายแดนภาคใต้ก็ไม่เคยก่อเหตุในกรุงเทพฯมาก่อน

"อาจมีกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการพิจารณา แม้แต่กล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุมีเชื้อชาติผู้ก่อเหตุได้"

สิ่งที่นักวิเคราะห์เห็นพ้องต้องกันคือ กลุ่มผู้วางระเบิดมีการทำงานเป็นขบวนการ และเห็นได้ชัดว่ามีการจงใจเลือก"เป้าหมาย"อย่างชัดเจน

ที่มา : straitstimes