หุ้นสหรัฐดิ่งเหว หลังคาดศก.โลกโตต่ำ

ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่ง น้ำมันลง ทองขึ้น หลังกังวลศก.โลกโตต่ำ เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด-หวั่นอีโบลาระบาด

ตลาดหุ้นสหรัฐตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างหนัก ภายหลังจากที่บรรดานักลงทุนต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ โดยเมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่า อาจจะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจโลกขยายตัวอ่อนแอ นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของอีโบลายังฉุดให้หุ้นในกลุ่มสายการบินปรับตัวลดลงอีกด้วย

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง 1.6% หรือ 31 จุด ปิดที่ 1,874.82 จุด ซึ่งนับเป็นการปิดตลาดต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ก็ปรับตัวลดลง 1.4%  หรือ 222 จุด ปิดที่ 16,321 จุด นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน ด้านดัชนีแนสแดก ปรับตัวลดลง 62 จุด หรือ 1.5% ปิดที่ 4,213 จุด

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยน้ำมันดิบเบรนท์งวดส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับตัวลดลง 1.5% ไปอยู่ที่ 88.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งนับเป็นราคาที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2010 ขณะที่ น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน พ.ย. ก็ปรับตัวลดลงเช่นกันโดยลดลง 8 เซนต์ ไปอยู่ที่ 85.74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 22 เดือน

ด้าน ราคาทองคำต่างดีดตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัย โดยโกลด์ ฟิวเจอร์ หรือสัญญาณซื้อขายทองคำล่วงหน้า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 1,229.30 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์