posttoday

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (9)

06 มกราคม 2562

หมายเหตุบรรณาธิการ: พัฒนวีร์ เป็นนามปากกาของนักเขียนคู่ที่คลุกคลีกับญี่ปุ่นมานาน 

หมายเหตุบรรณาธิการ: พัฒนวีร์ เป็นนามปากกาของนักเขียนคู่ที่คลุกคลีกับญี่ปุ่นมานาน 


วันนี้ท้องฟ้าสดใส อากาศดี เหมือนท้องฟ้าคงรู้ว่าวันนี้เป็นการเที่ยววันสุดท้ายในโอกินาวา จึงสร้างบรรยากาศและท้องฟ้าให้เป็นใจเหมาะกับการเที่ยวถ่ายรูปเก็บความทรงจำ ในระหว่างทางที่ไปยังจุดหมายของวันนี้ เราสังเกตเห็นเรือสำราญลำใหญ่จอดเทียบท่าอยู่ จึงขับรถเข้าไปที่ท่าเรือนาฮะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกสต์เฮาส์เท่าไหร่นัก เพื่อยลโฉมความยิ่งใหญ่อลังการของเรือสำราญกันสักหน่อย เรือที่กำลังเทียบท่าอยู่เป็นเรือสัญชาติอเมริกัน มีชื่อเรียกว่า Diamond Princess ปกติจะล่องเส้นทางจากไต้หวันมายังโอกินาวา และหมู่เกาะใหญ่ๆ ใกล้เคียง บางเส้นทางมีไปจังหวัดใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นด้วย ทั้งนี้เส้นทางจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของการล่องเรือ ภายในเรือมีทั้งห้องออนเซน ห้องอาหารจีน ห้องอาหารญี่ปุ่น เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับผู้โดยสารชาวเอเชียโดยเฉพาะ การเที่ยวโดยการล่องเรือสำราญก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

นอกจากจะได้เที่ยวโอกินาวาแล้ว ยังได้เที่ยวอีกหลายๆ ที่ภายในทริปเดียวได้อีกด้วย หลายๆ คนคงคิดว่าการเที่ยวโดยเรือสำราญเหมาะกับคนที่มีอายุมากหน่อย แต่อุตสาหกรรมเรือสมัยนี้พัฒนาและมีการแข่งขันสูง เรือแต่ละลำก็จัดหากิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเอาใจลูกค้าทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น วัยโจ๋ ก็สามารถเอนจอยทริปเรือสำราญได้ทั้งนั้น แถมการเที่ยวแบบนี้ค่อนข้างสบายตัว ไม่ต้องย้ายกระเป๋า ได้รับการบริการทุกวันเสมือนอยู่โรงแรม เป็นการเที่ยวที่ชิลและสบายมากๆ ถ้าเบื่อนั่งเครื่องบินก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศล่องเรือมาเที่ยวดูก็ได้นะ และนอกจากเรือแบรนด์ Princess Cruises ยังมีแบรนด์เรือสัญชาติอิตาเลียนอย่าง Costa Cruises ที่ล่องในเส้นทางโอกินาวาด้วยเหมือนกัน

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (9)

ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เป็นถนนที่ทอดยาว สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายยา ถือเป็นจุดช็อปปิ้งสำคัญในตัวเมืองนาฮะ ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวโอกินาวาก็ต้องมาที่นี่ทุกคน! “Kokusai Dori” เมื่อคืนเราได้มาสำรวจที่นี่บ้างแล้ว วันนี้เลยพยายามสำรวจตั้งแต่ต้นทางเดินมาเรื่อยๆ ถึงแดดตอนเที่ยงจะจ้าไปเสียหน่อย แต่ก็ได้ลมทะเลพัดผ่าน สามารถเดินเล่นได้เพลินๆ ใครมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกลางถนน จะเห็นเป็นวิวถนนตรงกลาง สองข้างเป็นร้านค้า และมีต้นมะพร้าวเป็นพร็อพประกอบฉาก เป็นอีกหนึ่งโลเกชั่นยอดนิยม ยิ่งแดดแบบนี้ทำให้รูปที่ถ่ายออกมายิ่งสวยเข้าไปใหญ่ และทำให้เวลามองไปยังฝั่งตรงข้าม หรือมองไปยังผู้คนกำลังเดินขวักไขว่ไปมาตามถนน เป็นภาพที่สวยงามและมีเสน่ห์ เราเดินดูของฝากของท้องถิ่นไปพลาง มีหลายอย่างที่น่าสนใจ แต่ส่วนใหญ่จะสนใจของกินเป็นพิเศษ

มาดูโซนของกินกันก่อนดีกว่า อย่างเจ้าสิ่งนี้ เครื่องปรุงรส ก่อนเดินทางเราไปจำลองบรรยากาศโอกินาวาโดยการพาตัวเองไปลิ้มลองอาหารโอกินาวาที่ร้านชื่อดังแห่งหนึ่งใกล้บีทีเอสพระโขนง ไปสะดุดตากับเครื่องปรุงรสนี้ ลักษณะเป็นน้ำใสๆ มีพริกลอยอยู่ในน้ำ ลองเหยาะลงไปในโซบะโอกินาวา โอ้โห! มันได้รสชาติ มันจี๊ดจ๊าดจัดจ้านขึ้นเยอะ เหมือนน้ำส้มแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว รสชาติออกเผ็ดเปรี้ยว มีกลิ่นแอลกอฮอลล์ มันคือ Koregusu พริกดองเหล้า Awamori เครื่องปรุงสูตรเฉพาะของชาวโอกินาวานั่นเอง และแน่นอนซื้อกลับมาเป็นที่เรียบร้อย ถัดจากเครื่องปรุงรส ซอสต่างๆ ยังมีพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โซบะสำเร็จรูปรสชาติท้องถิ่น ก็เหมาะที่จะนำไปเป็นของฝากได้เช่นกัน

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (9)

โดยเฉพาะรสโซบะโอกินาวา ลองแล้วอร่อย เป็นการเปลี่ยนรสชาติและเพิ่มความหรูหราให้กับชีวิตสิ้นเดือนแทนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปกติได้อย่างดีเยี่ยม และถ้าใครชอบพวกซุป มีสาหร่ายอบแห้งพร้อมผงปรุงรส เพียงแค่เติมน้ำร้อนแล้วรอสักนิด ก็จะได้ซุปร้อนๆ ซดโล่งคอพร้อมกับมื้ออาหาร หรือจะเป็นสาหร่ายพวงองุ่นสดๆ พร้อมซอสราดก็น่าสนใจ ถัดไปอีกนิดจะเป็นโซนขนม มีบิสกิตรสเกลือ ที่รสชาติกลางๆ ใครก็กินได้ มีของฝากชื่อดังอย่างทาร์ตหน้ามันม่วงที่เป็นเหมือนของฝากประจำเมืองโอกินาวา และอื่นๆ อีกหลายอย่างที่เลือกชิมไม่หวาดไม่ไหว นอกจากนี้ยังมีร้านขนมชื่อดัง เช่น sweet parlour ชีสเค้กแสนอร่อย ก็หากินได้ที่ถนนแห่งนี้ด้วย

ถัดจากของกิน เราไปดูของฝากกันบ้างดีกว่า แก้วโอกินาวา (Ryukyu Glass) แก้วที่ผ่านกรรมวิธีด้วยเทคนิคเฉพาะ เป็นงานแก้วที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของชาวโอกินาวา แต่สังเกตหลายร้าน เอ๊ะ! ทำไม แก้วเขียนว่า made in Vietnam ลองหาข้อมูลดู เป็นเพราะแก้วพวกนี้เป็นแก้วที่มีราคาขายไม่สูง จะถูกผลิตที่โรงงานแก้วในเวียดนาม แต่ทำด้วยเทคนิคของโอกินาวา ใครซื้อแก้วเป็นของฝากก็อย่าลืมดึงสติ๊กเกอร์ออก หรือเลือกซื้อแก้วที่มีราคาหน่อย หรือเลือกซื้อตามร้านขายแก้วโดยเฉพาะแทน ส่วนของน่ารักๆ แนะนำเป็นแฟ้มใส่เอกสารลวดลายโอกินาวา เช่น รูปซีซ่าที่ทักทายด้วยคำทักทายแบบโอกินาวา

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (9)

รูปน้องฉลามวาฬ หรือตัวการ์ตูนดิสนีย์ใส่ชุดท้องถิ่น นับว่าเป็นของฝากเล็กๆ น้อยๆ ที่น่ารักและไม่มีที่ไหนเหมือน ซื้อได้แค่โอกินาวาเท่านั้น พูดถึงซีซ่า ที่ Kokusai Dori มีร้านขายซีซ่าเยอะมาก หลากหลายรูปแบบ ทั้งน่ารักกุ๊กกิ๊ก ทั้งแบบมาดนิ่ง หรืองานดีราคาสูงก็มีเช่นกัน อีกหนึ่งสิ่งที่แนะนำคือ ผ้าลายโอกินาวา เป็นผ้าลวดลายดอกไม้สีสันสดใส สามารถนำไปห่อข้าวของ ดัดแปลงเป็นที่มัดผม ตกแต่งบ้าน มีประโยชน์หลากหลาย แถมให้ความรู้สึกถึงท้องทะเลและความสนุกสนาน

เราเดินสำรวจมาตลอดทาง แวะดูนั่นดูนี่ จนเดินมาถึงร้านดองกี้ ข้างๆ มีถนน Ichiba Hon Dori ทางเดินใต้โดมที่เต็มไปด้วยร้านขายของมากมาย ถ้าใครเหนื่อยสามารถดื่มน้ำมะระให้เย็นชื่นใจก่อนได้ตั้งแต่ต้นซอย หรือถ้าไม่โอเคกับความขม ก็มีน้ำผลไม้ปั่นให้เลือกหลายอย่าง แต่ถ้าอดใจอีกหน่อยก็จะเจอกับร้านไอศกรีม Blue Seal เป็นอีกถนนที่มีของน่าสนใจ และมีร้านค้าหลากหลายให้ชม นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงของ Kokusai Dori ยังมีตลาดปลา และถนน Tsuboya Yachimun ย่านร้านเครื่องปั้นดินเผา คือแถวนี้สามารถเดินเล่นได้เรื่อยๆ ทั้งวัน แต่พวกเราขอพอแค่นี้ก่อน ไม่สามารถเดินสำรวจต่อไปได้เพราะความหิวเริ่มทำงานแล้ว

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (9)

สุดท้ายก็ได้มาฝากท้องที่ร้านอาหารท้องถิ่นที่ Kokusai Dori ปิดท้ายด้วยเซตอาหารท้องถิ่น ประกอบด้วย ข้าวอบ โซบะโอกินาวา ผัดมะระ เครื่องเคียง และตบท้ายด้วยขนมไข่หน้าตาคล้ายดอกทิวลิป ปลื้มปริ่มกับผัดมะระมาก ได้มากินถึงที่ฟินมากเลย เมื่ออาหารตกถึงท้องก็ได้เวลากองทัพที่จะต้องเดินทางต่อ แต่ในระหว่างทางที่เดินไปยังที่จอดรถ เห็นคนกำลังมุงดูอะไรสักอย่าง เราไทยมุงก็ต้องไม่แพ้ญี่ปุ่นมุง เลยขอรู้ซะหน่อย ตึงๆ! เสียงกลองหนักแน่น พร้อมท่วงท่าและลีลาในการรำกลองเอซะ ประกอบเสียงเพลง เป็นการแสดงท้องถิ่นโอกินาวาที่มีโชว์เฉพาะวันหยุด เพื่อสร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวบนถนน Kokusai Dori มีนักแสดงตัวจิ๋ว ถึงตัวจะเล็กแต่ความสามารถหนูไม่เล็กนะคะ น้องแสดงอย่างไม่เคอะเขิน แสดงเต็มที่แข็งแรงพอๆ กับผู้ใหญ่ พอการแสดงจบก็ได้เวลาล้อหมุนไปเที่ยวซิกเนเจอร์ของโอกินาวากันต่อ