posttoday

คาโนปี วอล์กเวย์ เดินย่องท่องป่าเหนือ

17 มิถุนายน 2561

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นมีอยู่หลายแนว บ้างก็เที่ยวแบบถึงไหนถึงกันบุกป่าฝ่าดงเข้าไปกินดื่มนอนยลชมความสวยงามของธรรมชาติ

เรื่อง : พี่กั๊ตจัง

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นมีอยู่หลายแนว บ้างก็เที่ยวแบบถึงไหนถึงกันบุกป่าฝ่าดงเข้าไปกินดื่มนอนยลชมความสวยงามของธรรมชาติ บ้างก็อยากเที่ยวแบบสะอาดแค่อยากเห็นแต่ไม่อยากเปื้อน ก็เป็นความสุขอีกแบบของการท่องเที่ยว

ถ้าคุณชอบการเที่ยวแนวนี้เราขอแนะนำให้เดินทางมาที่ คาโนปี วอล์กเวย์ พฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สถานที่ที่จะทำให้คุณชมความงามของป่าไม้ไปพร้อมๆกับความสนุกบนเส้นทางลอยฟ้ากว่า 400 เมตร และจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่

เส้นทางที่ทำด้วยเหล็กกล้ายกตัวเป็นทางเดินชมธรรมชาติเหนือพื้นดินราว 20 เมตรนี้จะช่วยทำให้เราได้เห็นความสมบูรณ์ของป่าไม้ในมุมสูง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นภาพรวมระบบนิเวศของป่าและพื้นที่เขตรอยต่อต่างๆ ได้ชัดเจน ที่สำคัญกว่านั้นเราจะได้เห็นสัตว์
ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้สูง เช่น นก กิ้งก่าบินได้

โดยไม่ต้องแหงนคอมองเหมือนตอนเดินบนพื้นราบ นั่นจึงทำให้คาโนปี วอล์กเวย์ เป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย นั่งรถเข็นก็สามารถชมความสวยงามของป่าไม้ได้

คาโนปี วอล์กเวย์ เดินย่องท่องป่าเหนือ

เมื่อมาถึงจะมีการจำกัดรอบการเข้าชมไม่ให้เกิน 20 คน/รอบ เพื่อความปลอดภัย หลายคนเริ่มสงสัยว่าเส้นทางก็ดูแข็งแรงแต่ทำไมถึงจำกัดนักท่องเที่ยว เมื่อย่างเท้าเข้าส่วนทางเดินเพียงไม่กี่ก้าวทุกคนรู้สึกได้ทันทีถึงความไหวเอนเล็กน้อย แค่ 20 คนก็คิดว่าจะน่าจะเป็นตัวเลขที่เหมาะสมแล้ว

ระหว่างเดินจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและอธิบายเรื่องราวของป่าให้เราได้รู้จัก แนะนำว่าเวลาเดินเที่ยวโดยที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำนั้นเราควรจะเดินตามอย่างใกล้ชิด เพื่อฟังความรู้ให้ชัดเจน บางทีความสนุกของการเที่ยวป่านั้นอยู่ที่เรื่องราวที่ทำให้เราได้รู้สึกว่ามีส่วนร่วมนั่นเอง

จุดแรกที่เราจะได้เห็นก็คือกล้วยไม้ที่อาศัยอยู่บนยอดไม้สูงมองจากข้างล่างอาจจะเห็นไม่ถนัดตานักแต่ถ้าอยู่บนคาโนปี วอล์กเวย์ แล้วจะเห็นได้ถนัดตา ว่ากันว่ากล้วยไม้ในโลกนี้ที่ค้นพบแล้วมีอยู่ทั้งหมด 900 สกุล กับอีก 2.5 หมื่นชนิด พบได้ตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรไปจนถึงขั้วโลก

เฉพาะในประเทศไทยมีอยู่ถึง 177 สกุล และมีอีก 150 ชนิด ที่พบได้เฉพาะในประเทศไทยเราเท่านั้น และหนึ่งในนั้นเราจะเห็นได้ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

คาโนปี วอล์กเวย์ เดินย่องท่องป่าเหนือ

ถ้าโชคดีนอกจากจะได้เห็นกล้วยไม้แล้วคุณอาจจะได้เห็นกิ้งก่าบิน บินโชว์ความสามารถระหว่างการเดิน ซึ่งเราจะต้องใช้สายตาสอดส่องพวกเขาให้ดี ลักษณะของกิ้งก่าบินจะแตกต่างจากกิ้งก่าทั่วไปตรงที่หางของมันจะยาวกว่าลำตัวเกือบ 2 เท่า เรียวเล็ก ลำตัวเป็นสีส้มเพราะเป็นชั้นผิวหนังขดอยู่ข้างลำตัว

จะกางออกก็ต้องเมื่อต้องการร่อนไปต้นไม้อีกต้นหนึ่ง มีบันทึกไว้ว่ากิ้งก่าบินของไทยนั้นสามารถบินได้ไกลถึง 60 เมตร

ระหว่างทางถ้าไม่ได้สนใจเรื่องราวของเจ้าหน้าที่นำเที่ยวมากนักก็ยังสามารถแยกตัวออกมาถ่ายภาพทางเดินกับวิวสวยๆ ได้บางจุดมีที่ยืนชมวิวเป็นกระจกนิรภัยใสทดสอบความกล้า มีอยู่วิวหนึ่งที่ชื่อว่าจุดชมวิว ดอยม่อนคว่ำล่อง

มีตำนานของล้านนา กล่าวว่า ขุนหลวงวิลังคะ ผู้ปกครองอาณาจักรลัวะแห่งล้านนา หลงรักพระนางจามเทวีแห่งเมืองหริภุญชัย แต่พระนางไม่ชอบขุนหลวง จึงออกอุบายให้ขุนหลวงพุ่งเสน้า (หอกด้ามยาวมีสองคม) 3 ครั้งจากเมืองลัวะให้มาตกที่ในเมืองหริภุญชัย
การพุ่งครั้งแรก ตกใกล้เขตกำแพงเมือง

คาโนปี วอล์กเวย์ เดินย่องท่องป่าเหนือ

พระนางจามเทวี เห็นทีท่าแล้วว่าขุนหลวงคงมีวิชาและกำลังมากพอที่จะทำสำเร็จจึงออกอุบายมอบผ้าถุงทำเป็นหมวกให้ขุนหลวงใส่ ขุนหลวงด้วยมีใจรักต่อพระนางอยู่แล้วเมื่อเห็นสิ่งของที่หญิงสาวมอบให้จึงใส่อย่างไม่ลังเลใจ แต่ผ้าถุงนั้นกลับทำให้มนตร์เสื่อมลง กำลังวังชาไม่มากเหมือนดังเก่า จึงทำให้หอกนั้นตกอยู่ห่างจากเขตเมือง

ขุนหลวงเริ่มสิ้นหวังและเสียใจการพุ่งครั้งที่ 3 จึงพุ่งหอกขึ้นไปบนฟ้าและแอ่นอกรับหอกหมายให้ตัวตาย ก่อนสิ้นใจสั่งทหารให้ฝังพระศพบนยอดเขาแห่งใดแห่งหนึ่งที่สามารถมองเห็นเมืองหริภุญชัยได้ตลอดเวลา เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างพระนางจามเทวีแม้จะไม่สมหวังในรักก็ตาม ดอยนั้นจึงได้ชื่อว่า ดอยม่อนคว่ำล่อง แปลว่า ภูเขาที่มีลักษณะคล้ายโลงศพ นั่นเอง

เมื่อเดินไปได้ประมาณ 100 เมตร จะมีทางเลี้ยวกลับ สำหรับคนที่กลัวความสูงมากๆ สามารถเดินเลี้ยวกลับเพื่อไปพักที่ร้านขายของที่ระลึกได้ แต่ถ้าเดินต่อไปก็จะได้เห็นจุดชมวิวสวยๆ และจุดเรียนรู้ธรรมชาติอีกมากมาย ยิ่งถ้ามีกล้องส่องทางไกล หรือกล้องดูนกโดยเฉพาะจะตื่นตาตื่นใจกับนกนานาพันธุ์ที่ส่งเสียงให้เราได้ยินตลอดทางเดิน

คาโนปี วอล์กเวย์ เดินย่องท่องป่าเหนือ

เสร็จจากทางเดิน คาโนปี ใช้บริการรถนำเที่ยวไปยังกลุ่มอาคารเรือนกระจกที่หลายคนน่าจะเคยเดินทางมาเที่ยวชมกันบ้างแล้ว กลุ่มอาคารเรื่องกระจกนี้ประกอบไปด้วย เรือนกระจกไม้ป่าดิบชื้น เรือนพืชทนแล้ง และเรือนกระจกขนาดกลางแสดงพืชทั่วไป

พันธุ์ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่รวบรวมกล้วยไม้ต่างสายพันธุ์ไว้ได้มากที่สุดแห่งหนึ่ง และสำหรับชาวฮิปสเตอร์ ไม่ควรพลาดเรือนแคคตัส ซึ่งเกือบทุกคนจะถามเป็นเสียงเดียวกันว่าซื้อกลับบ้านได้ไหม

โดยรวมแล้วการมาเข้าชม คาโนปี วอล์กเวย์ ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ นั้นจัดว่าเป็นการเที่ยวแบบสบายๆ แม้ในยามฤดูร้อนแต่บนยอดเขาก็ยังมีลมพัดเย็นเสมอ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะเด็กๆ จะรู้สึกสนุกกับการเดินบนเส้นทางลอยฟ้านี้มากที่สุด