จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่
แสงแรกลอดผ่านแนวป่าบนเทือกเขาสุเทพ-ปุย เสียงนกคุยกันก้องป่า สร้างบรรยากาศรับอรุณท่ามกลางความอบอุ่นของ จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ รีสอร์ทสไตล์ไทยล้านนาประยุกต์
เรื่อง/ภาพ : นิทรา ราตรี
แสงแรกลอดผ่านแนวป่าบนเทือกเขาสุเทพ-ปุย เสียงนกคุยกันก้องป่า สร้างบรรยากาศรับอรุณท่ามกลางความอบอุ่นของ จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ รีสอร์ทสไตล์ไทยล้านนาประยุกต์
สมกับความหมายของชื่อที่หมายถึง ทรัพย์งามบนขุนเขา
รีสอร์ทตั้งอยู่บนเนินเขากลางสวนลิ้นจี่เก่าที่ยังคงรักษาไว้และปรับภูมิทัศน์ใหม่ให้ร่มรื่นสวยงาม โดยมีหลองข้าวที่ถูกประยุกต์ให้เป็นบ้านพัก 2 ชั้น จำนวน 5 หลัง แทรกตัวอยู่ในสวนใต้เงาไม้ ได้แก่ บ้านจันศรี ขนาด 100 ตร.ม. และบ้านจันแก้ว ขนาด 98 ตร.ม.
ทั้งสองหลังมีลักษณะคล้ายกันคือ ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำรับแขก และบาร์ ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอน มีเตียงมุ้งสี่เสาแบบบ้านโบราณ พร้อมห้องน้ำและระเบียงรอบบ้าน
บ้านยวงจันและบ้านร้อยจัน ขนาด 180 ตร.ม. เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน โดยทั้งสองหลังประกอบด้วย 2 ห้องนอนบนชั้น 2 ส่วนชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ห้องครัว และระเบียงกว้างสำหรับจัดปาร์ตี้ขนาดย่อมท่ามกลางแสงดาวยามค่ำคืน
หลังสุดท้าย บ้านจันเป็ง ขนาด 274 ตร.ม. ชั้นล่างประกอบด้วยห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร บาร์ ห้องน้ำรับแขก และระเบียงกว้างอเนกประสงค์ ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว 1 ห้อง และแบบเตียงคู่ 1 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำและระเบียงกว้างชมวิวแนวเทือกเขาแบบพาโนรามา
หลองข้าวล้านนาหรือยุ้งข้าวของคนภาคกลางนั้น เป็นของคู่บ้านเรือนของคนล้านนา ใช้สำหรับเก็บข้าวเปลือก และยังสะท้อนถึงความมั่นคงของครัวเรือน และความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน
หากชุมชนหรือบ้านใดมีหลองข้าวขนาดใหญ่ ก็จะแสดงถึงสถานะทางเศรษฐกิจและความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร
ลักษณะของหลองข้าวจะเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง โดยได้นำมาประยุกต์ให้เป็นบ้านพัก ทำใต้ถุนให้เป็นห้องนั่งเล่น ส่วนชั้นบนปรับเป็นห้องนอน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ล้านนา กระเบื้องเคลือบ โถเซรามิก จิตรกรรมไทยล้านนา โคมไฟระย้า โดยแต่ละหลังจะมีช้างไม้แกะสลักบอกหมายเลขของหลองข้าว ตามความเชื่อของชาวล้านนาถึงความเป็นสิริมงคล
นอกจากนี้ รีสอร์ทยังมีห้องสวีทสไตล์โคโลเนียลอีก 14 ห้อง ออกแบบและตกแต่งเป็น 5 ดีไซน์ ได้แก่ สตูดิโอสวีท ห้องพักชั้นล่างขนาดกะทัดรัดแต่มีทุกอย่างครบ ทั้งมุมสบายด้วยเก้าอี้ตัวยาว ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และเตียงนอน โดยสามารถเดินมาพักผ่อนได้ที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ด้านนอกห้องพัก หรือจะนั่งชิงช้าอ่านหนังสือรับลมธรรมชาติ
ดีลักซ์สวีท ห้องโทนขาวเผยความงามของลายหินอ่อน มีจุดเด่นที่ห้องนั่งเล่นสีฟ้าเทอร์ควอยส์ ไว้นั่งพักผ่อนแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนจากห้องนอนเพื่อความสะดวกสบาย
บัลโคนีสวีท ห้องพักสีสดใสด้วยโทนขาวเหลือง ตัดเฉดกับโซฟาเบดกำมะหยี่สีแดง พร้อมอ่างอาบน้ำแยกส่วนกับห้องอาบน้ำ
เทอร์เรสสวีท ห้องสีฟ้าพาสเทลและขาว มีอ่างอาบน้ำ และระเบียงกว้าง
การ์เดนสวีท ห้องโทนขาวน้ำเงิน โดดเด่นที่อ่างอาบน้ำสุดโรแมนติกข้างเตียงนอน และแฟมิลี่สวีท ห้องพักขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวเสมือนบ้านพักตากอากาศที่มีครบทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำใหญ่พิเศษ ชานนั่งเล่นนอกบ้านพัก และสระแช่ตัวปูพื้นหินอ่อนที่สามารถเดินลงได้จากห้องนั่งเล่น
รีสอร์ทยังมีอาหารให้บริการที่ห้องอาหารจันตราคีรี เมนูเด่นต้องยกให้อาหารไทยรสจัดจ้านและดั้งเดิมทั้งอาหารเหนือและอาหารภาคกลาง เช่น หมี่ผัดผักกระเฉดรสเผ็ดกลมกล่อม น้ำพริกกะปิพร้อมผักสดสารพัด มัสมั่นเนื้อ แกงส้มชะอมกุ้ง ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวาน รวมทั้งยังมีอาหารฟิวชั่นอย่างออสเตรเลียริบอายจิ้มแจ่ว และซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิว
ทิวทัศน์จากห้องอาหารจะเห็นแนวภูเขาสุเทพ-ปุยเด่นชัด ซึ่งความสวยงามจะแปรเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาขึ้นอยู่กับแสงและเงาจากพระอาทิตย์ โดยห้องอาหารจะตกแต่งด้วยสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์โบราณ ซึ่งเป็นของสะสมของ เกรียงศักดิ์ กัลยาวัฒนเจริญ เจ้าของรีสอร์ทผู้หลงใหลเสน่ห์ของความเก่าและศิลปะที่แฝงอยู่ในของเหล่านั้น
นอกจากนี้ ด้านหน้าห้องอาหารยังมีสระว่ายน้ำหินอ่อนวางตัวขนานไปกับแนวภูเขา จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแหวกว่ายอยู่กลางป่าใต้แสงแดดอุ่น และความเงียบสงบ ยิ่งช่วยความเป็นส่วนตัวเสมือนได้ทิ้งคนทั้งโลกไว้ข้างหลัง
จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ จะกลายเป็นสถานที่ลับสำหรับคนที่อยากปลีกวิเวก หลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความสะดวกสบาย ทั้งยังเก็บรักษาวิถีชีวิตและเสน่ห์ของความเป็นล้านนาไว้ในสไตล์ของจันตราคีรี