เลือกตั้ง66:ปิยบุตร ชี้ ก้าวไกล สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง อ้อนขอ12ล้านเสียง
ปิยบุตร ปลุกพลังหนุ่มสาว ชี้ พรรคก้าวไกล เป็น สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง ระบุ เมล็ดพันธ์แห่งความหวัง ถูกหว่านไปทั่ว ย้ำ เลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ ความหวังกับความกลัว ขอคะแนนเสียงทะลุ 12ล้านเสียง เพื่อการันตรี พลังใหม่ พัด พลังเก่า ให้ล้มระเนระนาด
วันที่ 12 พ.ค. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.66 โดยได้เปิดประตูให้ประชาชนทยอยเข้าไปจับจองที่นั่งตั้งแต่เวลา 15.30 น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน คนรุ่นใหม่ รวมถึงคนวัยทำงาน ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้ชั้น1 ถูกจับจองจนเต็มพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มาทีหลัง ขึ้นไปบนอัฒจรรย์ชั้นสองแทน กระทั่งเวลา 17.00 น. ประชาชนนั่งเต็มทุกเก้าอี้ ทางพรรคติดตั้งจอแอลอีดี เพื่อฉายวิดีทัศน์นโยบายต่างๆและแนวคิดทางการเมืองของพรรคก้าวไกล ไปยังบริเวณสนามฟุตบอล ที่อยู่ใกล้เคียง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้ารับฟังในอาคารได้
สำหรับบรรยากาศการปราศรัยในครั้งนี้ได้มีการแจกธงสีส้มให้แก่ผู้ร่วมงานเพื่อใช้โบกระหว่างรับฟังการปราศรัย และเมื่อจบงานให้นำมาคืน
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ปราศรัยว่า พรรคก้าวไกลตั้งใจเอากรงขังในอดีต ออกไปจากอนาคต เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนสามารถกำหนดอนาคตได้ การเลือกตั้ง14พ.ค. เป็นการปะทะ อดีตกับอนาคต ผู้มีอำนาจอยากให้เราอยู่ในอดีต แต่เรายืนยันจะเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ วันเลือกตั้งจะเป็นการชี้ชะตา เราจะเลือกเอาอดีต ที่มีการทำรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอานักการเมืองรวมกันไปชิงตำแหน่งส.ส.เพื่อไปต่อรองรัฐมนตรี
หรือเลือกเอาอนาคต เอาคนทำรัฐประหารมาเข้าคุก ตัดวงจรอุบาทว์ออกไป อนาคตที่คนธรรมดาฝันเป็นส.ส.ได้ มองคนเป็นคน และจะแก้ปัญหาที่ต้นตอ ผ่าตัดชีวิตประเทศไทยใหม่ให้สมบูรณ์
หมดเวลาเอาความฝัน ความทรงจำในอดีตมากักขังอนาคตประเทศไทย พรรคก้าวไกลเดินทางไปทั่วประเทศ สายตาประชาชนมองมาที่เรา มีแต่ความหวัง เยาวชน บอกขอฝากอนาคตชาติไว้ด้วย พ่อแม่ อยากส่งต่ออนาคตให้ลูกหลาน ด้วยความหวังที่แพร่กระจายไป เป็นปรากฎการณ์ก้าวไกล ไฟลามทุ่งทั่วประเทศ เป็นสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง เมล็ดพันธ์แห่งความคาดหวัง เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาพยายามหยุดพวกเรา หยุดความหวังประชาชน ใช้ความกลัววาดภาพให้เราเป็นปิศาจ เป็นพวกยุยง ปลุกปั่น สุดโต่ง ชังชาติ ใช้ความกลัวมาทำลายความฝัน ความหวังประชาชน ความกลัวผลักดันไปสู้ ทำลายล้างผู้อื่น แต่ความหวังจะกระตุ้นให้เราออกไปเปลี่ยนสังคมให้ดีกว่าเดิม เป็นแสงสว่างสู่อนาคตแบบใหม่
นายปิยบุตรกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่าง ความกลัว กับ ความหวัง โดยความหวังของเรา อยากทำให้สังคมไทยได้ดีขึ้น ให้ทุกเพศ ทุกวัยอยู่ด้วยกันได้โดยสันติ ยอมรับคนมีความคิดอนุรักษ์นิยม แต่ความกลัว จะไม่ยอมให้เราเผยแพร่ความคิดก้าวหน้า เขากลัวว่า ถ้าไม่แลนด์สไลด์ จะไม่ได้กลับมามีอำนาจอีก แต่เรามีความหวังเปลี่ยนแปลงรัฐบาล นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน ความกลัวพยายามบอกให้เราหยุดเปลี่ยนแค่นายกฯ รัฐบาลพอแล้ว แต่ความหวังบอกไม่พอ ต้องเปลี่ยนประเทศไทยด้วย
ขอยกจากหนังสือที่เคยอ่านมา มีนักโทษถูกขังในถ้ำ มีโซ่ตรวนล็อกคอ ทำให้ขยับไม่ได้ ต้องอยู่กับที่อย่างเดียว มองหน้าตรงอย่างเดียว โดยข้างหน้าเป็นผนังถ้า มีมนุษย์เดินไปเดินมา เท่ากับเขาเห็นตรงได้แค่ผนังและเงา แต่อยู่มาวันหนึ่งมีคนปลดโซ่ตรวนพาออกจากถ้ำ เห็นโลก เห็นแสงอาทิตย์ เห็นมนุษย์ เขาเลยตกใจ โลกที่เห็นไม่ใช่ความจริง แน่นอนช่วงเวลาแรกก็จะแสบตา แต่เมื่อไหร่ที่ตั้งสติได้ จะตื่นรู้ ปรับตัวกับโลกใบใหม่ได้ ในช่วงยามแบบนี้ ความกลัวปะทะความหวัง ที่สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง พัดพามาอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนมีความหวังต่อไป อย่าท้อแท้ ท้อถอย เยาวชนหนุ่มสาว ต้องอยู่ในโลกนี้อีกนาน เรามีความชอบธรรมสูงสุด กำหนดอนาคตประเทศไทยได้ด้วยตัวเอง ลงมือทำด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ อย่าเพิ่งหนีจากประเทศ เพื่อทำที่นี่เพื่อเปลี่ยนประเทศไปด้วยกัน
จะปล่อยให้คนจนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน มีความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร ขอให้ตัดสินใจออกมา เปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกัน คนรุ่นก่อนที่ผ่านการต่อสู้ทางการเมือง รู้สึกประสบความพ่ายแพ้ สิ่งที่คิดหวัง ไปไม่ได้แล้ว ยกธงขาวยอมแพ้ ขอสื่อสารตรงไปตรงมา เชื่อว่า เขาก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง วันนี้สายลมความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว จะหยุดยั้งมันทำไม มาทำความฝันให้เกิดขึ้นจริง ความฝันของเรา ไม่ได้หยุดแค่ยอดมะพร้าว เราจะเปลี่ยนแปลงโลกใหม่ไปด้วยกัน คนที่เหลือเวลาอยู่ไม่กี่ปี ลองมาทำความเข้าใจ การเปลี่ยนแปลงของเยาวชน แล้วหาที่หาทางให้อยู่ร่วมกันได้ แล้วสร้างสังคมนี้ ส่งต่อให้ลูกหลานของพวกเรา
ปรากฎการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่งที่แสดงออกตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา และที่แห่งนี้เมื่อ 4ปีที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งปี2562 เกิดการยุบพรรค เกิดปรากฎการณ์คนหนุ่มสาวในปี2563-2565 หรือ ย้อนไปของการเปลี่ยนแปลงคณะราษฎร 2475 จนถึงปรากฎการณ์ก้าวไกล ไฟลามทุ่ง ที่มาฟังการปราศรัยอย่างล้นหลาม คือ สายธารแห่งการต่อสู้
14พ.ค.เป็นโอกาสที่พวกเราจะใช้ชี้ชะตาอนาคตประเทศ เสียงระฆังดังอุโฆษอยู่หน้าบ้าน จงรีบหยิบโอกาสนี้มาเปลี่ยนแปลงด้วยกัน หากทิ้งโอกาสนี้ไป เราอาจเสียใจไปตลอดชีวิต ทุกคะแนนเสียงมีค่า มีความหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้มาก ทุกคะแนนไม่ใช่แค่ทำให้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มเท่านั้น แต่ส.ส.เขต เราไม่มีระบบจัดตั้ง ถ้าพี่น้องแบ่งใจไปให้ที่อื่น ไม่กาก้าวไกล มีโอกาสส.ส.เขตสอบตกได้ เป็นเวลาที่เราจะได้กำหนดจะได้คะแนนแบบก้าวไกลหรือไม่ ถ้าคะแนนเกิน 10 ล้าน ไป11ล้าน หรือ12 ล้านเสียง หมายความว่า คนไทยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนพรรคก้าวไกล แม้จะถูกกระทำย่ำยีมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ แต่ถึงเวลาออกมาแสดงพลัง สนับสนุนพรรคก้าวไกลมากกว่าเดิม
ที่สำคัญที่สุด คือสัญลักษณ์ กลุ่มคนเหล่านี้อยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เป็นตัวแทนพลังแบบใหม่ จะพัดให้พลังแบบเก่าล้มระเนระนาดไป ย้ำตรงนี้ ระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงเสียงดังอุโฆษอยู่หน้าประตูแล้ว หยิบฉวยมาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นจะเสียใจไปตลอด 14 พ.ค. ไปกาก้าวไกลให้ถล่มทลาย ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต 14พ.ค.กาก้าวไกล หยุดอดีต เพื่อนำไปสู่อนาคต 14พ.ค. ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน


