เลือกตั้ง66 : “จุรินทร์” นำ ปชป. ปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายลานคนเมือง
“จุรินทร์” นำ ปชป. ปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายลานคนเมือง ปลุกคนไทยทั้งประเทศให้ #Saveประชาธิปัตย์ เพื่อเป็น “เสาหลัก” #ประชาธิปไตยไม่โกง พาประเทศรอด
12 พ.ค. 2566 เวลา 17.30 น. ลานคนเมือง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทัพปราศรัยยิ่งใหญ่ปลุกคนไทย #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง” ที่บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมี บรรดาผู้สมัคร ส.ส. เขต กทม. ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พร้อมแกนนำคนสำคัญของพรรคเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ร่วมเป็นพิธีกร
สำหรับบรรยากาศการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ในเวทีสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 นี้ มีพี่น้องประชาชนมาร่วมรอฟังการปราศรัยตั้งแต่ช่วงบ่าย บริเวณรอบลานคนเมือง มีการติดจอ LED มีตัวอักษรวิ่ง #Saveประชาธิปัตย์ #ประชาธิปไตยไม่โกง พร้อมทั้งมีบรรดาแฟนคลับทั้งที่เป็นของพรรคประชาธิปัตย์และของตัวผู้สมัครต่างเข้าจับจองพื้นที่ใกล้เวทีให้มากที่สุด
ทำให้บริเวณลานคนเมืองเต็มล้นไปด้วยพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมฟังการปราศรัยของพรรค มีทั้งการชูป้าย โบกธง และป้ายไฟเพื่อสนับสนุนให้นายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรี และยังมีป้ายเชียร์ผู้สมัครของพรรคจากทุกเขตอีกด้วย เมื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคได้เดินทางมาถึงเวทีปราศรัย
บรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้นเมื่อมีการเปิดเพลง “เช้าวันใหม่” พี่น้องประชาชนทุกเพศทุกวัยสามารถร้องตามได้คล่อง ส่งเสียงเชียร์ พร้อมกับเรียกนายจุรินทร์ว่า “นายกๆ” “นายกฯ มาแล้ว” ดังเป็นระยะ มีการมอบดอกไม้ โบกมือทักทาย ทำมือสัญลักษณ์หัวใจ และขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก
ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่า การปราศรัยใหญ่ครั้งนี้จะมีส่วนทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กลับมาทำงานรับใช้ประชาชนอย่างท่วมท้นต่อไป
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้ปราศรัยช่วงหนึ่ง ถึง 6 เหตุผลที่ต้อง #saveประชาธิปัตย์ ซึ่งคำว่า save แปลว่าช่วยกันปกปักรักษาพรรคการเมืองพรรคนี้เอาไว้ ต้อง save ประชาธิปัตย์เพราะ
เหตุผลประการที่ 1 ถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่มีสถาบันทางการเมือง ที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไปในประเทศไทยของเรา
เหตุผลประการที่ 2 เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่พรรคการเมืองที่มีอายุยั่งยืนยาวที่สุดในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นพรรคการเมืองที่มีความยั่งยืนยาวที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเกิดจากมือของคนไทยที่ช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูประชาธิปัตย์มาจนถึงวันนี้ เพื่อสร้างประโยชน์และทำการเมืองบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย
เหตุผลประการที่ 3 เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของครอบครัว โดยครอบครัว และเพื่อครอบครัวของใครครอบครัวเดียว #saveประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของนายพล โดยนายพล และเพื่อนายพล #saveประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของนายทุน โดยนายทุน และเพื่อนายทุน แต่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน
นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เป็นสมาชิก สมาพันธ์พรรคการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยโลก (Liberal International) ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองที่รวมเอาพรรคการเมืองทั่วโลกที่ไม่ใช่เผด็จการ เป็นที่รวมของพรรคการเมืองทั่วโลกที่เป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย และเป็นที่รวมของพรรคการเมืองทั่วโลกที่เป็นประชาธิปไตยตัวจริงทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นประชาธิปไตยตัวจริงทั้งในพรรคและนอกพรรค ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมดจาก 100 ประเทศ 140 พรรคการเมืองทั่วโลกรวมกัน
ด้วยเหตุนี้ #saveประชาธิปัตย์ จึงไม่ใช่ save ไว้แค่เพื่อประเทศไทย แต่เพื่อเสรีนิยมประชาธิปไตยของโลกด้วย
เหตุผลประการที่ 4 เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่แค่พรรคการเมืองของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่เป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น ทุกเพศทุกวัย และคนไทยทั่วทั้งประเทศ
เหตุผลประการที่ 5 นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่หวือหวา แต่ตกผลึก มีความรับผิดชอบ และทำได้จริง ที่สำคัญไม่พาประเทศไปสุ่มเสี่ยง แต่สามารถพาประเทศรอดได้จริง นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เป็นระเบิดเวลาให้กับประเทศ เพราะนโยบายประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนทุกอย่างที่ขวางหน้า ถ้าเป็นสิ่งไม่ดี ก็เปลี่ยนได้ ไม่เป็นไร แต่ถ้าดีอยู่แล้วแต่จะเปลี่ยน สุดท้ายจะพาประเทศไปสู่วิกฤตในอนาคตแน่นอน โดยเฉพาะที่กระทบหัวใจคนไทยทั้งประเทศ
เหตุผลประการที่ 6 เพราะพรรคการเมืองพรรคนี้ ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ดังที่ นายชวน หลีกภัย ได้กล่าวไว้ในการปราศรัยครั้งแรกว่า ประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน ไม่มีหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนไหนทุจริต จนต้องหนีไปอยู่เมืองนอกแม้แต่คนเดียว
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวอีกถึงเหตุที่ต้อง #saveประชาธิปไตยไม่โกง เพราะมี 2 คำ คือคำว่าประชาธิปไตย และคำว่าไม่โกง เพราะ 2 คำนี้จะทำให้ประเทศไทยอยู่รอดได้ และประชาธิปไตยที่ว่าต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบเท่านั้น ประชาธิปไตยครึ่งใบไปต่อไม่ได้ เพราะจะเจอแรงเสียดทานไม่รู้จบเหมือนหลายปีที่ผ่านมา
และประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ เพราะหลายยุคหลายสมัยที่ประเทศไปต่อไม่ได้เพราะมันไม่ใช่ประชาธิปไตยไม่โกง แต่สุดท้ายกลายเป็นประชาธิปไตยโคตรโกง คนเสียหายก็คือประชาชน
ดังนั้นถ้าพรรคประชาธิปัตย์สามารถตั้งรัฐบาลได้ ประชาธิปัตย์พาประเทศรอดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะประวัติศาสตร์ได้บอกเรา ทุกครั้งที่ประเทศมีวิกฤต ประชาธิปัตย์จะเข้ามากู้วิกฤตทุกครั้ง
“เมื่อวานใครตามข่าวบ้าง ผบ.ทบ.บอกว่าต่อไปปฏิวัติจะเป็นศูนย์ ผมบอกพี่น้องเลย ถ้าเลือกประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้ ปฏิวัติก็จะเป็นศูนย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่โกง เราไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติยึดอำนาจ เหมือนที่เคยเกิดการยึดอำนาจมาแล้วหลายครั้งในหลายรัฐบาลที่มา นี่คือสัญญาณที่ขอส่งไปยังพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และพี่น้องคนไทยทั้งประเทศให้ช่วยกัน #saveประชาธิปัตย์ เพื่อให้ประชาธิปัตย์ เป็นเสาหลักในการ #saveประชาธิปไตยไม่โกง และเพื่อให้เป็นทางรอดของประเทศต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว
พร้อมกับวิงวอนพี่น้องทุกคน พลังเงียบ พลังประชาธิปัตย์ พลังคนไทยทั้งประเทศช่วยกัน ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. โดยไปช่วยลงคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 400 เขต 400 คน ในกรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขต 33 คน และบัตรสีเขียว ขอให้ช่วยกันไปลงคะแนนให้กับ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เพื่อรักษาประชาธิปัตย์ไว้ให้สามารถพาประเทศรอดได้ต่อไปด้วยประชาธิปไตยไม่โกง