เลือกตั้ง66:ปิยบุตร มั่นใจ กระแสก้าวไกล ยังทะยานได้อีก ชี้ สู้บ้านใหญ่ได้
ปิยบุตร มั่นใจ กระแส พรรคก้าวไกล ยังทะยานขึ้นอีก เชื่อกระแส สู้กระสุนบ้านใหญ่ได้ เหตุ ความคิดอุดมการณ์พรรคชัดเจน เมิน คนร้องเรียนครอบงำพรรค ระบุ หมดยุคขี้แพ้ชวนตี แจงเข้าใจบทบาทผู้ช่วยหาเสียงดี ไม่ได้ไปสั่ง โว กรุงเทพ33เขต ได้ลุ้นทุกเขต
วันที่24เม.ย. นายปิยบุตร แสงกนกุล ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ตลาดนัด แฟลต12 เขตคลองเตย เขตวัฒนา ช่วยนายภัณฑิล น่วมเจิม ผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เบอร์ 2 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับค่อยข้างดี ประชาชนกล่าวชื่นชมและขอถ่ายรูป
ก่อนการหาเสียง นายปิยบุตรกล่าวถึงความมั่นใจในพื้นที่เขตคลองเตยว่า หากเปรียบเทียบกับคะแนนปี 2562 สมัยพรรคอนาคตใหม่ เราแพ้ไปนิดเดียว ส่วนรอบนี้มาเป็นพรรคก้าวไกล เชื่อว่านับตั้งแต่กระแสการดีเบตของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
และแกนนำของพรรคอีกหลายคน รวมถึงผู้ช่วยหาเสียงทุกคน ทั้งตน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นางสาวพรรณิการ์ วานิช ที่เดินสายหาเสียงทั่วประเทศกระแสปีนี้สูงกว่าปี 62 ซึ่งก็สร้างความมหัศจรรย์ของพรรคอนาคตใหม่ไปแล้ว แต่ครั้งนี้คิดว่ากระแสสูงกว่าเดิมอย่างมาก และแตกต่างจากเดิมเพราะไม่ได้มีเฉพาะแต่ประชาชนคนรุ่นใหม่แต่พบว่ามีกลุ่มประชากรที่ให้การสนับสนุนหลากหลายช่วงวัยมากกว่าครั้งที่แล้วจึงยืนยันว่าครั้งนี้สำหรับกรุงเทพฯทั้ง 33 เขตได้ลุ้นทุกเขต
จากการวิเคราะห์ ในเขตคลองเตยครั้งที่แล้วชนะไปนิดเดียว เพราะมาจากกระแสประชาชนบางส่วน ที่ยังคงอยากจะเลือกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้กระแสเปลี่ยนเยอะมาก มีคนอยากจะเปลี่ยนนายกฯเยอะมากและเปลี่ยนขั้วรัฐบาลเยอะมาก รวมถึงมีคนอยากเปลี่ยนโครงสร้างประเทศไทยให้มันยุติธรรมเสมอภาคเท่าเทียมมากยิ่งขึ้นก็เลยเชื่อว่าเขตคลองเตยมีโอกาส
สำหรับผลโพลล่าสุด พรรคก้าวไกลมีกระแสที่ดีขึ้นนั้น มองว่าผลโพลยังสามารถขึ้นได้อีก กำลังค่อยๆไต่ขึ้นมา กระแสของแต่ละพรรคเริ่มหยุดแล้ว แต่พรรคก้าวไกล เชื่อว่ายังทะยานได้อีก
ส่วนการหาเสียงทางพรรคได้มอบหมายให้ผู้ช่วยหาเสียงอย่างตนเองนายธนาธรและนางสาวพรรณิการ์ หาเสียง กระจายแต่ละพื้นที่ ทั่วประเทศซึ่งการปราศรัยของพรรคก้าวไกลนิยมปราศรัยแบบเวทีย่อยขนาดเล็กเพราะเชื่อว่าต้องลงพื้นที่ไปหาประชาชนให้ได้มากที่สุด ตั้งใจว่าจะใช้กลยุทธ์แบบนี้ ต่อไป
ถามว่า ภาพรวมกระแสของพรรคจะสู้กับ กระสุนบ้านใหญ่ได้หรือไม่ นายปิยะบุตรกล่าวว่า ภาพใหญ่ทั้งหมด กระแสพรรคไปสูงมากแล้ว กระแสพรรคกระจายไปทั่ว ปรากฏการณ์ที่ชี้วัดเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นหน้าที่ของผู้สมัคร ที่จะต้องเดินทางไปเก็บกระแสเพื่อจะให้เป็นคะแนน เชื่อว่ากระแสก็จะสู้กระสุนได้ ความคิดและอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลที่ชัดเจนตรงไปตรงมา คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น พูดอย่างไรทำอย่างนั้น อันนี้จะสู้กับพวกการเมืองแบบบ้านใหญ่ได้
เมื่อถามว่า เมื่อกระแสดีแล้วมีข่าว นายธนาธร และนายปิยบุตรครอบงำพรรคนั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า เข้าใจว่านักร้องต้องทำหน้าที่ร้องคอยสกัด อยากให้การแข่งขันการเลือกตั้งแข่งขันอย่างตรงไปตรงมาชนะก็ชนะ แพ้ก็ยอมรับ น่าจะหมดเสียทีกับประเพณีนิยมที่ว่า เตะสกัดขัดขา ผ่านการร้องเรียนยุบพรรคตัดสิทธิ์ ถ้าเป็นอย่างนี้เขาเรียกว่า ขี้แพ้ชวนตี แต่ทั้งนี้ไม่ว่า จะร้องอะไรมาก็พร้อมต่อสู้
ผู้ช่วยหาเสียงทั้ง 3 คน ทราบดีว่า เป็นได้แค่ผู้ช่วยหาเสียงเป็นได้แค่กองเชียร์ ไม่ได้เป็นโค้ชไปสั่ง ไปสอนทำหน้าที่อย่างเดียว คือหาเสียงตามที่พรรคกำหนด ไม่มีเกินเลย พรรคจะตัดสินใจอย่างไรก็ให้เขาทำกันไป หรือแม้แต่เลือกตั้งเสร็จพรรคจะร่วมรัฐบาลกับใครก็ให้เขาไปคิดกัน ตนมีหน้าที่แค่หาเสียงอย่างเดียว
