posttoday

เลือกตั้ง66 :“สุชัชวีร์” ประกาศปักธง กทม. เดินหน้าผลักดันการศึกษาให้เด็ก

08 เมษายน 2566

สุชัชวีร์ ขึ้นปราศรัยใหญ่ ประกาศปักธง กทม. รวมพลังประชาธิปัตย์ ชูผู้นำทุกประเทศทุกชนชาติควรผลักดันการศึกษาให้กับเด็ก เพราะเด็กคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของประเทศ

ในงานเวทีปราศรัยใหญ่ ของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ทุกคนในพรรครวมใจกันเตรียมสู่ศึกเลือกตั้งที่จะสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ

ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาร่วมสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้พรรคกันอย่างมากมาย โดยการปราศรัยนำทัพโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นางวทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พร้อมทั้งผู้สมัคร ส.ส. กทม. ประชาธิปัตย์ ทั้ง 33 คน และผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ

ด้านศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. กล่าวว่า ตนเป็นอีกหนึ่งคนในพรรคที่ได้ร่วมส่งพลังอันยิ่งใหญ่นี้ไปสู่พี่น้องคนไทย โดยผู้นำทุกประเทศทุกชนชาติควรผลักดันการศึกษาให้กับเด็ก เพราะเด็กคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของประเทศ ยิ่งมีทรัพยากรด้านความรู้มากเพียงใดหากได้ใช้ก็ไม่เคยหมด กลับยิ่งเพิ่มพูนอย่างมหาศาล ดังนั้นการศึกษาไทย คือ ลมหายใจของตน และ DNA ของพรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมสุขภาพของเด็ก เพื่อส่งมอบร่างกายที่แข็งแรง ด้วยนโยบาย “ดื่มนมโรงเรียนฟรี 365 วัน” ให้เด็กไทยสูงขี้น แข็งแรงขึ้น พร้อมด้วยนโยบาย “อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุดทั่วประเทศ” ให้ได้เข้าถึงการศึกษา การเรียนรู้ โดยจะไม่มีเด็กไทยถูกทิ้งไว้ข้างหลัง อีกทั้งนโยบาย”เรียนปริญญาตรีฟรี” จะเป็นสวัสดิการพื้นฐานของลูกคนไทยทุกคน โดยจะเริ่มจากสาขาที่ตลาดต้องการ ทั้งวิทย์ ศิลป์ และสังคม

รวมถึง เชื่อว่าเด็กไทยจะต้องเข้าถึงการศึกษาที่ดี มีสุขภาพที่ดี เข้าถึงเทคโนโลยีพร้อมก้าวทันคนอย่างเท่าเทียมกัน และอยากนำพาความรู้ นำพลังที่มีอยู่ไปผลักดันประเทศเพื่อรับใช้พี่น้องทุกคน เพื่อก้าวไปเปลี่ยนประเทศ สร้างกระแสใหม่ ไทยนิยมให้กับประเทศไทย เพราะ #เด็กไทยไม่แพ้ใครในโลก 

โดยทิ้งท้ายว่า พรรคประชาธิปัตย์จะผลักดันประเทศพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้ากับพี่น้องคนไทยทุกคน มาช่วยกันลงคะแนนเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัครแบบเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสทำงานในฐานะ ส.ส. ต่อไป