posttoday

เลือกตั้ง66 : จุรินทร์ ประกาศปชป.พร้อมทำไพรมารีโหวตผู้สมัครทั่วประเทศ

25 มีนาคม 2566

“จุรินทร์” ประกาศ ปชป.พร้อมทำไพรมารีโหวต ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. ทั่วประเทศ 25-27 มี.ค.66มั่นใจปชป.กระแสดีขึ้น ทักษิณกลับบ้านได้ไม่มีใครห้าม แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2566 ที่โรงแรมบลิซ โฮเทล ลาดกระบัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดประชุมสมาชิกพรรค เพื่อรับฟังความคิดเห็นการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม โดยบรรยากาศการทำไพรมารีโหวตของผู้สมัคร ส.ส. กทม. ในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกพรรค และประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก 

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมในการจัดทำไพรมารีแล้ว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เมื่อเสร็จสิ้นการทำไพรมารี่ในวันที่ 27 มี.ค.66 ก็จะทราบว่า ทั้ง 400 คน 400 เขต เป็นใคร และบัญชีรายชื่อทั้ง 100 รายชื่อนั้นเป็นใครบ้าง เมื่อทางพรรคได้นำมาจัดทำไพรมารีแล้ว ก็จะทราบผล
 

สำหรับการที่ กกต. มีการประกาศเขตเลือกตั้งออกมานั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัครใน กทม. 4 เขต ประกอบด้วย น.ส.สุภัสสรา ธงไชย เขตห้วยขวาง วังทองหลาง นสพ.อนันต์ ฤกษ์ดี เขตหนองจอก ลาดกระบัง และมีนบุรี น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร เขตธนบุรี คลองสาน ราษฏร์บูรณะ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ เขตบางขุนเทียน จอมทอง เนื่องจาก กกต. มีการปรับเขตเลือกตั้ง ทำให้พรรคจำเป็นต้องปรับตาม ส่วนใน 29 เขต ก็คงเดิมตามที่ได้ประกาศเปิดตัวไปแล้ว 

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า เมื่อตระกูลม่วงศิริ อยู่กับเราแล้ว 2 คน เมื่อคุณสุวัฒน์ เข้ามาเพิ่ม ก็จะช่วยให้ทีมกรุงเทพฯ เข้มแข็งขึ้น ก็เชื่อว่ามีโอกาสฝ่ามาได้ทั้ง 3 ท่านในฝั่งธนฯ 


สำหรับผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรามีครบทั้ง 100 ชื่อ เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจะไม่เกิน 100 ชื่อ ที่จะต้องนำไปทำไพรมารี และประชาธิปัตย์ได้ส่งทั้ง 100 ชื่อ ที่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาของพรรคในเบื้องต้น โดยจะรอผลจากการทำไพรมารีในวันที่ 27 มี.ค.นี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งยังไม่สามารถตอบในตอนนี้ได้ ส่วนเรื่องการจัดลำดับบัญชีรายชื่อนั้น ก็จะเป็นเรื่องที่กรรมการสรรหาจะต้องเป็นผู้พิจารณาและส่งให้กรรมการบริหารพิจารณาอีกครั้ง 

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่มีข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร ต้องการกลับประเทศไทยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วก็กลับประเทศได้อยู่แล้วถ้าจะกลับ ไม่มีใครสามารถไปห้ามไม่ให้กลับได้ เพียงแต่เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรอย่างไร 

พร้อมกับได้ให้ข้อสังเกตว่า นายทักษิณนั้นออกมาพูดในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้งเท่านั้นเอง ส่วนข้อเท็จจริงก็คือไม่มีใครไปห้ามไม่ให้กลับได้ เพราะตัวนายทักษิณเองก็สามารถกลับมาได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเรื่องการจับขั้วเพื่อรวมเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ตอบว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มีหลักที่ได้ประกาศไปแล้วว่า เรายึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงข้างมากได้คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ที่เหลือก็เป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนหลังการเลือกตั้งว่า พรรคไหนจะได้เท่าไหร่ แล้วใครจะไปรวมกับใคร กลายเป็นเสียงข้างมากเสียก่อน เพราะฉะนั้นต้องนับหนึ่งที่การเลือกตั้ง ส่วนการจับขั้วนั้นสามารถทำได้ แต่จะเกิดจริงได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับมือประชาชน ใครจะไปจับกับใครอย่างไรก็จับได้ แต่สุดท้ายประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบ ประชาธิปัตย์จึงบอกว่า เมื่อเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เราก็เคารพประชาชน เพราะฉะนั้นต้องให้ประชาชนเป็นคนแรกที่ให้คำตอบก่อน ว่าเขาจะให้พรรคไหนเท่าไหร่ และเมื่อถึงเวลานั้น พรรคก็จะพิจารณาว่าจะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร โดยอาศัยที่ประชุมพรรค และต้องเป็นมติด้วย