posttoday

JAN29 กางแผนรุก IPO ปี 69 ปักธงเข้า mai ชูจุดแข็ง MarTech และการเติบโตสวนกระแสจากกลุ่มภาครัฐ

22 ธันวาคม 2568

บมจ.จันทร์ 29 (JAN29) กางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ปี 2569 มุ่งยกระดับเทคโนโลยี MarTech ขยายฐานลูกค้าภาคเอกชน หลังโชว์กำไรปี 67 เติบโตสวนกระแสงบรัฐชะลอตัว พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2570 แตะ 1,000 ล้านบาท

มจ.จันทร์ 29 (JAN29) ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการอีเวนต์และการสื่อสารการตลาดครบวงจร ปรับแผนเตรียมเสนอขายหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในต้นปี 2569 มุ่งยกระดับเทคโนโลยี MarTech และขยายฐานรายได้สู่ภาคเอกชน หลังทำกำไรปี 2567 เติบโตเกือบ 9% แม้เผชิญปัจจัยลบจากงบประมาณภาครัฐที่ชะลอตัว พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2570 ทะลุ 1,000 ล้านบาท

นายพชร สุนทรวิภาต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จันทร์ 29 จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับกรอบเวลาการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นช่วงต้นปี 2569 เพื่อให้สอดรับกับสภาวะตลาดทุน โดยมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมภายในองค์กร ทั้งด้านโครงสร้างองค์กร ระบบบัญชี และระบบการควบคุมภายใน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2566 บริษัทได้เปลี่ยนมาตรฐานการจัดทำรายงานทางการเงินจากมาตรฐานสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (NPAEs) เป็นมาตรฐานสำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (PAEs) โดยมีบริษัท ดีไอเอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทยังคงมาจากการขายและการให้บริการโครงการของหน่วยงานภาครัฐ

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 1,102.32 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสะสม 68.19 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 81.44 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2565 รายได้ 343.07 ล้านบาท ปี 2566 รายได้ 398.78 ล้านบาท และปี 2567 รายได้ 360.47 ล้านบาท ลดลง 9.61% จากปีก่อน จากสถานการณ์ทางการเมืองและความล่าช้าของงบประมาณภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้วางแผนกลยุทธ์เพื่อบริหารความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้ภาครัฐ โดยขยายขอบเขตและประเภทของบริการ กระจายฐานลูกค้าไปยังภาคเอกชน ควบคู่กับการคัดเลือกโครงการที่มีอัตราผลตอบแทนเหมาะสม และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 32.34 ล้านบาท เติบโต 8.97% แม้รายได้รวมจะลดลง

สำหรับปี 2568 บริษัทมีงานโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ กลุ่มลูกค้าใหม่ และรายได้จากการขยายตลาดภาคเอกชน ส่งผลให้คาดว่าจะมีรายได้รวมมากกว่า 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมอีเวนต์ของประเทศไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2568 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 14,000–15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโต บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 40 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท และมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO

เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และสนับสนุนการขยายธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “Innovation, Entertainment & Experience” อาทิ การลงทุนในคอนเสิร์ต เทศกาล การดึงดูดอีเวนต์ระดับโลก รวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถด้าน MarTech เช่น บริการดิจิทัลเอเจนซี ระบบ Social Listening และระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM)

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยยกระดับมาตรฐานองค์กร ความโปร่งใส และธรรมาภิบาล อีกทั้งเป็นโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างมูลค่าในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย” นายพชรกล่าว่า

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง