posttoday

เลือกตั้ง66: นิพนธ์ ลั่นกระจายอำนาจ ดีเอ็นเอ ประชาธิปัตย์

22 มีนาคม 2566

นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ลั่นการกระจายอำนาจเป็นดีเอ็นเอปชป. เลิกการสั่งการจากส่วนกลาง ไม่สะท้อนความเป็นจริงจากท้องถิ่น ภาษีตัวใหม่ต้องกล้าคิดทั้งภาษีสิ่งแวดล้อมและเงินได้บุคคลธรรมดา

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกระจายอำนาจเป็น ดีเอ็นเอประชาธิปัตย์ เพราะท้องถิ่นอยู่ใกล้ชิดประชาชนมากกว่าส่วนกลาง การกระจายอำนาจมีคุณประโยชน์กับบ้านเมือง เรายังเดินหน้ากระจายอำนาจ ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับ ชนบท พรรคประชาธิปัตย์เราจะขับเคลื่อน เดินเมืองขนาดใหญ่ไปสู่มหานคร ประชาธิปัตย์พร้อมยกฐานะ เพื่อเดินไปข้างหน้า จังหวัดไหนมีความพร้อม เราจะให้จัดการตนเองอย่างแน่นอน เป็นหนทางการกระจายอำนาจ ลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด แม้มีคำครหา ยิ่งกระจายอำนาจ ยิ่งมีการทุจริต ขอบอกว่า ไม่จริง หากไปดูตัวเลขย้อนหลัง จะพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ที่ ส่วนกลาง รัฐวิสาหกิจ ไม่ได้อยู่ใน ท้องถิ่น  ประชาธิปัตย์ เดินหน้ากระจายอำนาจ ถึงเวลา ต้องไม่ตัดเสื้อโหลแล้ว เลิกการสั่งการจากส่วนกลาง เพราะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงจากท้องถิ่น ภาษีตัวใหม่ๆต้องกล้าคิด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และเรามีแนวคิดธนาคารเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อรองรับสิ่งดีๆหากเขามีแนวคิดที่จะพัฒนา ทำสิ่งที่ดีๆ

วันที่คิดตั้งพรรคประชาธิปัตย์เมื่อ6เม.ย. 2489 วันนั้นประกาศอุดมการณ์ 10 ข้อโดยเฉพาะข้อ5 คือพรรคจะกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะท้องถิ่นอยู่ใกล้ชิดประชาชนมากกว่าส่วนกลาง

เพราะฉะนั้นจากอุดมการข้อ5จึงไม่ต้องแปลกใจว่าไม่ว่ายุคใดที่ประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลเราเป็นคนเสนอกฎหมายกระจายอำนาจ โดยเฉพาะกฏหมายเลือกตั้งผู้ว่าฯก.ท.ม. ตั้งแต่ปี 2528

ขณะเดียวกันในยุคที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี2537 เราได้ยกร่างกฏหมายในการยกฐานะสภาตำบลให้เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลจนถึงทุกวันนี้

จากนั้นในปี 2542 เราได้มีการจัดทำกฎหมายแผนขั้นตอนการกระจายอำนาจซึ่งจนถึงขนาดนี้เรากระจายอำนาจไปแล้วสองแผนแผนแรกคือการกระจายภารกิจให้ท้องถิ่น 245 ภารกิจแต่มีการถ่ายโอนไปแล้วกว่า 180 ภารกิจ ขณะที่แผนที่สองมีกว่า 100 ภารกิจกระจายไปแล้วกระจายไปแล้ว 77 ภารกิจขณะที่แผนที่สามกำลังจะตามมานี่คือนี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำเรื่องการกระจายอำนาจ

เราคิดว่าการกระจายอำนาจเป็นหนทางที่จะลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบทเมื่อปี 2523 ในยุคที่พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้มีการจัดทำแผนพัฒนาชนบทเราเห็นความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบทแต่ทันทีที่เราใช้การกระจายอำนาจมาแก้ปัญหาวันนี้เราไม่มีชนบทในประเทศไทย ไม่มีตำบลไหนที่ไม่มีถนนราดยาง

จึงชัดเจนว่าการกระจายอำนาจมีความสำคัญต่อประเทศและเป็นการยืนยันว่าวันนี้เรามีการกระจายอำนาจได้แล้ววันนี้เรามีแต่เมืองขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดใหญ่

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เราจะขับเคลื่อนเดินเมืองขนาดใหญ่ไปสู่เมืองมหานคร โดยเฉพาะเทศบาลนครวันนี้หากเทศบาลนครใดมีความพร้อมพรรคมีความพร้อมที่จะยกฐานะให้เป็นเทศบาลมหานคร หรือหากจังหวัดไหนบอกว่ามีความพร้อมพรรคประชาธิปัตย์เรายืนยันที่จะให้เดินหน้าไปสู่จังหวัดจัดการตนเองอย่างแน่นอนนี่คือสิ่งที่เรากล้าบอกกับพี่น้องประชาชนนี่คือแนวทางการกระจายอำนาจและลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด

"มีคำครหาบอกว่ากระจายอำนาจไปมากเท่าไหร่การทุจริตมากขึ้นไม่จริงข้อนี้ผมในฐานะเคยเป็นนายกอบจ.มาก่อนผมสู้เรื่องนี้มายาวนานมากเวลาใครพูดเรื่องท้องถิ่นโกงผมเอาตัวเลขปีห้าสองถึงปีห้าเก้าที่มีการประกาศว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นในประเทศไทย 400,000 กว่าล้าน ท่านเชื่อหรือไม่ 200,000 กว่าล้านกลับอยู่ที่ส่วนกลาง 100,000 กว่าล้านอยู่ที่รัฐวิสากกิจ ขณะที่ท้องถิ่นเหลือเพียง 164 1,000,000 เท่านั้น ที่กล่าวหาท้องถิ่นทุจริตจึงเป็นไม่เป็นความจริง"

นายนิพนธ์ ยังกล่าวทิ้งท้าย ว่า 30 กว่าปีที่เราดำเนินการในเรื่องการกระจายอำนาจเราเห็นแล้วว่ามันมีอุปสรรคอย่างไรเราเริ่มถอดบทเรียนกันได้แล้ว วันนี้ประชาธิปัตย์คิดว่ามันถึงเวลาที่เราต้องไม่ตัดเสื้อโหลแล้วแต่เราจะบังคับท้องถิ่นให้ทำเหมือนกันทุกอย่างเป็นไปไม่ได้เพราะปัญหาท้องถิ่น

สิ่งที่ประชาธิปัตย์จะทำต่อเราจะต้องไปดูในเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นภาษีตัวใหม่ใหม่ต้องกล้าที่จะคิดภาษีสิ่งแวดล้อมถึงเวลาที่ต้องคิดภาษีภัยพิบัติต้องคิดสิ่งเหล่านี้ให้เป็นฐานของท้องถิ่นได้หรือไม่แม้แม้กระทั่ง การให้ท้องถิ่นมีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กล้าจะแบ่งให้ท้องถิ่น

"สิ่งสำคัญที่ประชาธิปัตย์จะทำคือมีธนาคารเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นเราประชาธิปัตย์ส่งสัญญาณชัดเจนต่อไปนี้ท้องถิ่นท้องถิ่นไหนมีโครงการดีดีแล้วไม่มีงบประมาณจะต้องไม่มีเรื่องนี้เป็นข้อจำกัดในการพัฒนาเมืองเราจะให้มีสถาบันพัฒนาเมืองมาตรวจสอบโครงการเพื่อตรวจสอบการดำเนินโครงการถ้าโครงการไหนดี เขามีงบประมาณแน่นอน" 

ในช่วงตอบคำถาม นายนิพนธ์  ยังพูดถึงการกระจายอำนาจในรูปแบบการปกครองพิเศษ ย้ำว่า เป็นความมุ่งมั่นของพรรคประชาธิปัตย์หากตรงไหนมีความพร้อม เช่นเมืองพิเศษแม่สอด หรือ เกาะสมุย เราพร้อมที่จะให้มีการปกครองพิเศษเหมือนเมืองพัทยา  เป็นต้น