‘โมโตจีพี ไทยแลนด์’ มีอะไร ทำไมต้องดู
ศึก “โมโตจีพี” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย เตรียมเปิดฉากแล้วในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งแน่นอนว่าการชิงชัยระดับโลกย่อมมีไฮไลต์ให้น่าติดตามมากมายทั้งในและนอกสนาม
เรื่อง ชมณัฐ
ศึก “โมโตจีพี” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย เตรียมเปิดฉากแล้วในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งแน่นอนว่าการชิงชัยระดับโลกย่อมมีไฮไลต์ให้น่าติดตามมากมายทั้งในและนอกสนาม
ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ฤดูกาล 2018 สนามที่ 15 ภายใต้ชื่อรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 (PTT Thailand Grand Prix 2018)” ซึ่งจะเปิดฉากชิงชัยระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค.นี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สตาร์นักบิดระดับโลกรวมตัว
ศึกโมโตจีพี นับเป็นมหกรรมกีฬาที่มียอดผู้ชมให้การติดตามทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 800 ล้านคน ซึ่งบรรดานักบิดที่เป็นขวัญใจมหาชนต่างพาเหรดมาซิ่งที่เมืองไทยในครั้งนี้กันอย่างพร้อมหน้า นำโดย “เด็กระเบิด” มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 4 สมัยจากสเปน จากเรปโซล ฮอนด้า และ “เดอะ ด็อคเตอร์” วาเลนติโน รอสซี มือเก๋าชาวอิตาเลียน ดีกรีแชมป์โลกรุ่นนี้ 7 สมัย สังกัดโมวิสตาร์ ยามาฮ่า
นอกจากนี้ ยังมี อันเดรีย โดวิซิโอโซ (อิตาลี) ที่มาพร้อม ฮอร์เก ลอเรนโซ (สเปน) ในทีมดูคาติ ซึ่งรายหลังยังต้องลุ้นหนักว่าจะลงซิ่งได้หรือไม่ หลังพลาดท่าล้มในสนามที่แล้วที่สเปน จนกระดูกฝ่าเท้าร้าวและมีอาการเคล็ดที่เท้าขวา โดยเจ้าตัวเตรียมกัดฟันลงบิดในรอบฝึกซ้อมเพื่อดูอาการว่าไหวขนาดไหน ตลอดจน ดานี เปรโดซา กับ มาเวริค บีญาเลส สองนักซิ่งชาวสเปนมือสองของฮอนด้าและยามาฮ่า ตามลำดับ
โค้งสุดท้ายตัดสินแชมป์
มาร์เกซ แชมป์โลกคนปัจจุบัน หวังที่จะคว้าแชมป์ในศึกที่เมืองไทยครั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 5 ของตัวเอง ต่อจากปี 2013 2014 2016 และ 2017 โดยปัจจุบันรั้งจ่าฝูงในตารางคะแนนสะสมประเภทบุคคล มี 246 แต้ม นำหน้าอันดับ 2 อย่าง โดวิซิโอโซ ถึง 72 คะแนน แต่อาจไม่ใช่งานง่ายเพราะในช่วงวินเทอร์เทสต์ที่สนามแห่งนี้เมื่อต้นปี นักบิดชาวอิตาเลียนสามารถทำความเร็วได้สูงที่สุดเหนือบรรดานักแข่งที่รายที่ 334.4 กม./ชม.
ขณะที่ตารางคะแนนสะสมประเภททีม ยังถือว่าสูสี เรปโซล ฮอนด้า นำมาเป็นอันดับ 1 ที่ 333 คะแนน ตามด้วย ดูคาติ 304 คะแนน และโมวิสตาร์ ยามาฮ่า 289 คะแนน ซึ่งสนามหลังจบสนามนี้แล้วจะเหลืออีกเพียง 4 สนามให้ได้ชิงชัย ดังนั้น “ไทยแลนด์กรังด์ปรีซ์” จึงถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่แต่ละคนห้ามพลาดเด็ดขาด
เชียร์นักบิดไทย
นอกจากเหล่าสตาร์นักบิดระดับโลกที่เดินทางมาชิงชัยในรุ่นใหญ่ 1,000 ซีซี แล้วยังมีการแข่งขันในรุ่นโมโตทู 600 ซีซี และโมโตทรี 250 ซีซี ด้วยเช่นกัน โดยสองรุ่นหลังมีนักบิดไทยลงวาดลายในศึกโฮมเรซต่อหน้ากองเชียร์บ้านเกิด นำโดย “ติ๊งโน้ต” ฐิติพงศ์ วโรกร นักแข่งไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ลงแข่งขันในรุ่นโมโตทู ในสังกัดแซ็ก เรซซิ่ง ทีม (สเปน)
ด้านรุ่นโมโตทรี มี “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จากฮอนด้า ทีม เอเชีย นักบิดไทยหนึ่งเดียวในรุ่นโมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่แข่งตลอดทั้งฤดูกาล พร้อมด้วย 2 นักแข่งที่ได้ไวลด์การ์ด คือ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จากยามาฮ่า ไทยแลนด์เรซซิ่ง ทีม
กิจกรรมสุดพิเศษ
นอกจากในสนามแล้ว บริเวณรอบนอกเจ้าภาพยังเนรมิตงาน “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เอ็กซ์โป” บนพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ เพื่อจัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เตรียมเดินทางมาชมการแข่งขันตลอดทั้ง 3 วัน โดยมีทั้งร้านอุปกรณ์มอเตอร์สปอร์ตที่มาลดแหลกในราคาพิเศษมากกว่า 100 ร้าน ตลอดจนบูธกิจกรรมพิเศษของสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนทั้งรายหลักและรายย่อย รวมถึงค่ายรถต่างๆ อาทิ ปตท. ช้าง ยามาฮ่า ฮอนด้า ดูคาติ ฯลฯ ที่เตรียมจัดเต็มให้ร่วมลุ้นของรางวัลเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงสินค้าเกี่ยวกับมวยไทยโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยเอกลักษณ์ประจำชาติ โดยช่วงเย็นวันที่ 5 ต.ค. จะได้พบสุดยอดแม่ไม้มวยไทยนายขนมต้มชิงแชมป์มวยไทย และซูเปอร์ไฟต์จากนักมวยในตำนานอย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ พบ สมรักษ์ คำสิงห์
คอนเสิร์ตจากศิลปินดัง
ภายในงานยังได้สนุกไปกับ “ช้าง มิวสิค คอนเนกชั่น” คอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย โดยเย็นวันที่ 6 ต.ค. นำโดย “ว่าน” ธนกฤต “อะตอม” ชนกันต์ และวงเก็ตสึโนว่า ส่วนเย็นวันที่ 7 ต.ค. พบกับมินิคอนเสิร์ตเกิร์ลกรุ๊ปที่ฮอตที่สุดอย่าง BNK48 ที่จะมามอบความสุข ด้วยความน่ารักสดใสของน้องๆ จัดเต็ม 16 คน