79 ชาติลุยยูธเวิลด์มวยไทย

ต่างชาติคึกคัก ตบเท้าลุยยูธเวิล์ดมวยไทย คาดเงินสะพัดเข้าประเทศกว่า 100 ล้านบาท

ไอ้หนูนักชกกว่า 1,000 คนจาก 79 ประเทศ พร้อมดวลเดือดศึก "2017 ยูธ เวิลด์ มวยไทย แชมเปี้ยนชิพ" ครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 4-11 ส.ค.นี้ ที่ลานอเนกประสงค์หน้าอาคารนิมิบุตร คาดมีเงินสะพัดเข้าประเทศกว่า 100 ล้านบาท หลังกระแสการตอบรับดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว ล่าสุดแม่งานกรมพลศึกษาพร้อมเต็มที่ในการรองรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากทั่วโลก พร้อมกันนี้ทางตัวแทนจาก "ยูเนสโก้" จะเข้าร่วมสังเกตุการณ์แมทช์ดังกล่าวด้วยว่า ช่วยพัฒนาเด็กได้ดีมากน้อยแค่ไหน

ดารณี ลิขิตวรศักดิ์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพลศึกษา และ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ ร่วมเป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันมหกรรมมวยไทยสมัครเล่นและกึ่งอาชีพนานาชาติ ประจำปี 2560 รายการ " 2017 ยูธ เวิลด์ มวยไทย แชมเปี้ยนชิพ" ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแมนดาริน โดยการแข่งขันดังกล่าวจะเริ่มขึ้น ระหว่างวันที่ 4-11 ก.ค.นี้ ณ ลานอเนกประสงค์หน้าอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ แบ่งออกเป็น 4 รุ่นทั้งชายและหญิง คือ รุ่นอายุ 10-11 ปี, รุ่นอายุ 12-13 ปี, รุ่นอายุ 14-15 ปี และ รุ่นอายุ 16-17 ปี เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป

ดารณี เผยว่า กรมพลศึกษามีความพร้อมและความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในการรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ ทั้งในส่วนของสนามแข่งขัน, ที่พัก, การคมนาคมขนส่ง และ การต้อนรับในด้านต่างๆ หลังประสบความสำเร็จการจัดการแข่งขันมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา จากเดิมมีนักมวยไทยยุวชนและเยาวชนจากทั่วโลกเข้าร่วม 59 ประเทศมีเงินไหลเข้ามาประมาณ 70 ล้านบาท ล่าสุดในปีนี้มีจำนวนประเทศสมาชิกตอบรับมาแล้วถึง 79 ชาติ นักกีฬาจำนวนกว่า 1,000 คน อาทิ รัสเซีย, เยอรมัน, โปรตุเกส, อังกฤษ, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส และ คาซัคสถาน ฯลฯ หรือแม้แต่ชาติมหาอำนาจในเอเชียบ้านเราก็ให้ความสำคัญและสนใจเป็นอย่างยิ่ง คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเงินไหลสะพัดกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากเวลานี้กีฬามวยไทยกำลังนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก อีกทั้งทางกรมพลศึกษาเองในฐานะที่ช่วยกำกับดูแลกีฬาของประเทศ มองเห็นโอกาสที่จะให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นและเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมของไทยว่า มีมนต์เสน่ห์และความน่าหลงไหลอย่างไรบ้าง

ขณะที่ ยศพนธ์ สุกุมลนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการกีฬาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมมวยไทยของกรมพลศึกษา ได้กล่าวว่า เวลานี้สถานที่ทุกอย่างพร้อมเต็มที่แล้วในการรองรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกที่จะเดินทางมากว่า 1,000 คน หลังจากปีที่ผ่านมากรมพลศึกษาได้จัดเป็นครั้งแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทุกประเทศที่เข้าร่วมต่างนำเอาประสบการณ์ที่ดีไปพูดกันต่อไป สำหรับในปีนี้เราได้เตรียมความพร้อมทุกอย่างให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากมีชาติเข้าร่วมมากกว่าเดิม ดังนั้นการบริหารจัดการแข่งบขันและการดูแลนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จะต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเรามีผู้แทนจากองค์กรของยูเนสโก้เข้ามาร่วมชมการแข่งขันด้วยในเรื่องของเด็กและเยาวชนให้ความสนใจกีฬาชนิดนี้อย่างไรบ้าง ยิ่งเวลานี้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญในการผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ ดังนั้นนักมวยไทยรุ่นอายุ 17-18 ปีเหล่านี้จะเป็นความหวังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะอีก 7-8 ปีข้างหน้าหากเป้าหมายที่วางไว้ประสบความสำเร็จ นักกีฬาเหล่านี้ที่ได้รับการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองมาตลอดก็จะขึ้นมาทดแทนได้ทันเวลา

สำหรับ ดร.ศักดิ์ชาย เผยตอนท้ายว่า การแข่งขันรายการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะผู้นำกีฬาชนิดนี้จากชาติต่างๆทั่วโลกจะเดินทางมาชมด้วยตัวเอง โดยเฉพาะผู้แทนองค์กรยูเนสโก้จะเดินทางมาสำรวจดูความพร้อมในเรื่องของการบริหารจัดการ, การพัฒนาทักษะเด็กและเยาวชนด้วยการใช้กีฬามวยไทยเป็นสื่อกลางว่า ดีมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากยุทธศาสตร์สำคัญในการผลักดันมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกนั้นจะต้องมี 4 ปัจจัยสำคัญคือ 1.ความนิยมแพร่หลาย 2.มาตรฐานในการจัดการแข่งขันที่ดี 3.การตัดสินที่โปร่งใส และ 4.นักกีฬามีคุณภาพและขีดความสามารถสูง ซึ่งการจัดการแข่งขันดังกล่าวนี้เข้าหลักเกณฑ์ทุกอย่าง เพราะทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี นั้น ได้จับตามองกีฬาชนิดอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นในเรื่องของมาตรฐานและการบริหารจัดการจะต้องดีสม่ำเสมอ ส่วนประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกปี 2024 ต่อจากญี่ปุ่นปี 2020 เรียบร้อยแล้ว หลังคู่แข่งสำคัญคือ สหรัฐฯหลีกทางให้เพื่อไปรอเป็นเจ้าภาพในปี 2028 ยิ่งจะทำให้เรามีโอกาสมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้ที่ผ่านมาเราได้สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเรื่องของมวยไทยมาตลอด และทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าภาพเองด้วยว่า จะรับและช่วยบรรจุกีฬามวยไทยเข้าไปอยู่ 1 ใน 28 ชนิดกีฬาหรือไม่ คาดว่า เราคงจะหาโอกาสเข้าไปพบผู้แทนของฝรั่งเศสเพื่อแสดงความยินดีและหาช่องทางผลักดันกันต่อไป