ศรัทธาถดถอย...ยุคมืด...มวยไทย

โดย...ราชันเบอร์23

ต้องบอกว่าวงการกำปั้นไทยบ้านเราช่วงนี้มีแต่ข่าวไม่สู้ดี ไล่มาตั้งแต่ บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกขวัญใจชาวไทย ซึ่งเผ่นแน่บลงเวทีมวยเควัน เวิลด์ แม็กซ์ ไฟนอล ที่ จ.ชลบุรี โดยอ้างว่าไม่อยากทำลายศักดิ์ศรีมวยไทย หรือแม้กระทั่งล่าสุด “เจ้าบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่กำปั้นเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 1996 ไม่ยอมขึ้นชกบนเวทีมวยไทยมาราธอน วีโก้แชมป์ และคาราวานซีพีเอฟ ที่เอเชียทีค โดยให้เหตุผลว่ากลัวบาดเจ็บ และอาจกระทบต่อวงการบันเทิง ทั้งๆ ที่รับเงินมัดจำไปแล้ว 1 แสนบาท

ก่อนหน้านี้มีข่าววางยานักมวยและจ้างล้มมวย ข่าวเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้มวยไทยเสียหาย ซึ่งมวยไทยนับว่าเป็นมรดกโลก ตอนนี้กำลังถึงทางตัน คนดูเริ่มถดถอย กระแสความนิยมตกต่ำจนน่าใจหาย ทั้งมวยไทย มวยสากลอาชีพ และอาจจะรวมไปถึงมวยสากลสมัครเล่นด้วย ซึ่งถ้าปล่อยให้ปัญหานี้เรื้อรัง ไม่ทำการผ่าตัดแก้ไข มวยไทยของเรา วัฒนธรรมของเรา ในอนาคตอันใกล้มันอาจจะเป็นเนื้อร้ายเกินกว่าจะเยียวยา

โปรโมเตอร์ใจไม่ถึงเหมือนอดีต

สร้อย มั่งมี แชมป์แฟนพันธุ์แท้โลกกำปั้น และนักข่าวสายมวย หนังสือพิมพ์ข่าวสด มองว่าแชมป์โลกที่มีตอนนี้น้อยเกิน แต่ภาพรวมถือว่าใช้ได้ เพราะมีรายการต่อเนื่องทั้งปี

“ประเทศไทยถือว่าผลิตนักมวยได้ไม่น้อยกว่าเม็กซิโก แต่เราจะสร้างมวยย่อยๆ มากกว่า เนื่องจากเงินทุนไม่สูง ผิดกับการจัดชิงแชมป์โลกสถาบันหลักสมัยนี้ต้องใช้งบประมาณมาก อีกทั้งเงื่อนไขต่างๆ ก็ไม่ง่ายด้วย มวยสมัยก่อนโปรโมเตอร์ควักทุนจัดเอง แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่ ทุกวันนี้มันเป็นธุรกิจใหญ่ การที่โปรโมเตอร์คนหนึ่งจะมาควักเนื้อเพื่อให้นักมวยคนหนึ่งเป็นแชมป์โลก มันสูญพันธุ์ไปนานแล้ว”

วัฒนธรรมการชมมวยเปลี่ยน

นอกจากนี้ต้องบอกว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปมาก สมัยนี้ยุคโซเชียลมีเดีย ไม่จำเป็นต้องรอดูถ่ายทอดสดเหมือนเมื่อก่อน หากพลาดก็ดูทางยูทูบหรือสื่ออินเทอร์เน็ตอื่นๆ

“สมัยก่อนจำได้ เขาทราย แกแล็คซี่ ชกเมื่อไหร่ ถนนหนทางโล่ง เพราะคนเขาไปดู ไปเชียร์มวยกัน เพราะถ้าพลาดก็คุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง ส่วนเวทีมวยไทย ไม่ว่าจะราชดำเนินหรือลุมพินี ก็ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างชาติ ผิดกับปัจจุบันที่โปรโมเตอร์บ่นอุบ จะจัดแต่ละทีมีแต่เข้าเนื้อหรือเสมอตัว แล้วพวกเขาจะจัดไปเพื่ออะไร” สร้อย ผู้คร่ำหวอดในวงการมวย กล่าว

ไร้นักมวย ‘ฮีโร่’ ไม่มีจุดขาย

“บอมบ์” มรุต คงประดิษฐ์ นักจัดรายการวิทยุกีฬามวย มองว่า องค์ประกอบที่จะทำให้นักมวยประสบความสำเร็จ นอกจากนักมวยต้องเก่งแล้ว ทีมงานต้องมืออาชีพ การตลาดต้องยอดเยี่ยม

“นักมวยไทยจะเป็นแชมป์โลกได้ นักมวยเก่งแล้ว ทีมงานต้องเก่งด้วย แต่นักมวยไทยส่วนใหญ่ที่จะมาต่อยสากลมีพื้นฐานมาจากมวยไทย ดังนั้นการที่จะเอานักมวยไทยมาจับชกสากลทำได้ง่าย แต่ทำให้เก่งทำยาก เพราะว่าเทรนเนอร์เรามีพื้นฐานมวยสากลน้อย หลายคนถามว่า เมื่อไหร่จะมีเขาทราย แกแล็คซี่ สอง คิดว่าไม่มีแน่นอน แต่จริงๆ แล้วนักมวยไทยเป็นที่ยอมรับและเป็นเจ้าของสถิติโลกหลายคน แต่พวกเขาไม่มีจุดขาย สุดท้ายเรื่องไร้ระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม”

แชมป์โลกขึ้นอยู่กับเก่งบวกเฮง

ด้าน “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ นายใหญ่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น บอกว่าเหตุผลที่ไทยมีแชมป์โลกมวยไทยน้อย นอกจากต้องเก่งแล้วต้องมีดวงด้วย

“ทุกโปรโมชั่นพยายามที่จะสร้างมวยของตัวเองชิงแชมป์โลก แต่มันก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสมากกว่า อย่าง วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น และ สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย สองอดีตแชมป์โลกในสังกัด บทจะได้เป็นแชมป์โลกก็ดวงล้วนๆ ส่วนเรื่องเสียแชมป์ก็เป็นเรื่องของโชควาสนา”

กำปั้นไทยไม่หงอยมี 2 แชมป์โลกกู้หน้า

ปัจจุบันพอจะมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อเมืองไทยมีแชมป์โลกสถาบันหลักถึง 2 คน คือ อำนาจ เกษตรพัฒนา แชมป์โลกรุ่นฟลายเวต สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) กับล่าสุด วันเฮง ไก่ย่างห้าดาวยิม แชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวตของสภามวยโลก (WBC) อาจจะดูน้อย แต่เมื่อเทียบกับช่วงปี 2521-2526 ไทยไม่มีแชมป์โลกเลย

 

พรบ.มวยเสือกระดาษตัวจริง

ขณะที่ “รองเสือ” สกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ยอมรับว่าตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.มา 15 ปี ยังไม่เคยนำมาใช้อย่างจริงจัง จนทำให้ต่อไปวงการมวยจะตกต่ำลงเรื่อยๆ

“ตั้งแต่ประกาศใช้ พ.ร.บ.มาตั้งแต่ปี 2542 ผมยอมรับว่ายังไม่เคยมีการนำมาใช้ในด้านกฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องการล้มมวย หรือเรื่องการทุจริตในวงการ ตัวผมเองเป็นคนที่ดูแลส่วนนี้ แต่ไม่มีหน้าที่ไปบังคับใช้กฎหมาย ต้องให้สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยเป็นคนตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยลงสนามจริง เข้าไปสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักกรณี ล่าสุดเรื่องบัวขาวหรือสมรักษ์ที่หายไปจากเวที พ.ร.บ.ก็ไม่มีสิทธิตรงนี้เช่นกัน เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมเตอร์ว่าจะตกลงกันอย่างไร ส่วนตัวผมเองก็ห่วงว่า ถ้าเราไม่เริ่มจริงจังกับ พ.ร.บ.กีฬามวย วงการมวยคงจะตกต่ำลงเรื่อยๆ” รองเสือ กล่าว

เออีซีเปิดมวยไทยจะกลับมาบูม

ทรงชัย รัตนสุบรรณ โปรโมเตอร์แถวหน้าของไทย เป็นผู้บุกเบิกจัดมวยไทยในเขมรและได้รับความนิยมอย่างมาก เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีทอง

“มวยเขมรตอนนี้บูมเหมือนมวยไทย เมื่อสมัย อภิเดช ศิษย์หิรัญ หรือ พุฒ ล้อเหล็ก นักมวยคือฮีโร่ครับ คนดูครั้งละหลายพัน อาจมีเล่นพนัน แต่ไม่ใช่ทุกคน ส่วนใหญ่แฟนมวยเข้าไปดูนักมวยขวัญใจ ความนิยมมวยเขมร ถ้าถ่ายทอดสด ก็ประมาณละครหลังข่าวบ้านเราคือมีเรตติ้งที่สูงมาก เป็นรายการยอดนิยมที่สุดในประเทศ เชื่อว่าปีหน้ามวยไทยจะได้กลับมาฮิตติดลมบนอีกครั้ง เพราะเราจะเจาะตลาดเออีซีมากขึ้น เรียกว่าวินทั้งผู้จัดและนักมวย” เจ้าของฉายา “บิ๊กซ้ง” กล่าว

คงต้องฝากความหวังไว้กับตัวนักมวย โปรโมเตอร์ และแฟนกำปั้นทุกคน เพราะพวกคุณเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้มวยไทย มรดกไทย ได้ไปต่อ หรือจะหยุดอยู่กับที่ รอวันล่มสลาย...

หากคนไทยไม่ช่วยกัน...แล้วใครจะช่วยเรา!!!