posttoday

เห็นแล้วไม่สบายใจ! ปปช.กาญจน์สอบรั้วกึ่งถาวรกันช้างป่างบกว่า19ล้านใช้การไม่ได้

08 กุมภาพันธ์ 2565

กาญจนบุรี-"เห็นแล้วถึงกับไม่สบายใจ"ผอ.ป.ป.ช.กาญจน์ สอบสภาพรั้วกึ่งถาวรป่าสลักพระกันช้างป่าไม่ได้ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าฯจ่อขอกรมอุทยานฯยกเลิกทำแล้วไม่เกิดประโยชน์

กรณีบริษัทเอกชนรับงานประมูลสร้างรั้วกึ่งถาวรเพื่อป้องกันช้างป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ออกนอกพื้นที่มากินและทำลายพืชผลทางเกษตรที่อาศัยอยู่โดยรอบ ซึ่งรั้วก่อสร้างเป็นระยะทาง 13 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ19,410,000 บาท แต่ถูกช้างป่าดันล้มเสียหายจำนวนหลายต้น ลวดสลิงขาดหลายจุด

น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้เข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้างรั้วกึ่งถาวร พื้นที่หมู่ 5 ต.ช่องสะเดา ต่อเนื่องหมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อย่างละเอียด เนื่องจาก ป.ป.ช.เห็นข่าวออกตามสื่อว่าเหล็กที่กั้นช้างป่าไม่ได้มาตรฐานและต้องการรู้ด้วยว่าโครงการนี้เสร็จสิ้นและมีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วหรือไม่

เห็นแล้วไม่สบายใจ! ปปช.กาญจน์สอบรั้วกึ่งถาวรกันช้างป่างบกว่า19ล้านใช้การไม่ได้

เบื้องต้น ป.ป.ช.ยังไม่ได้เห็นสเปคของโครงการว่าเป็นอย่างไร แต่จากการตรวจสอบโครงสร้างรั้วกึ่งถาวรแล้ว เชื่อว่าไม่น่าที่จะป้องกันช้างป่าได้ เพราะลักษณะของลวดสลิงที่นำมากั้นมีขนาดเล็ก ส่วนเสาที่ทำรูปแบบฐานแผ่มีลักษณะเหมือนกับนำเสามาตั้งอยู่บนดิน ขณะที่ช้างป่ามีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 3 ตัน แค่ช้างชนรั้วก็คงล้มเสียหายแน่นอน

ทั้งนี้ ทราบว่าโครงการยังไม่มีการส่งมอบงาน หรือตรวจรับงาน และยังไม่มีการเบิกเงินงบประมาณ ดังนั้น หน่วยงานราชการจึงยังไม่ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันต้องมาดูว่ากรมอุทยานฯ จะมีวิธีปรับแก้ไขรูปแบบรั้วอย่างไร ในเมื่อรั้วกึ่งถาวรที่ผู้รับเหมาดำเนินการไม่น่าจะกันช้างได้ การลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการป้องปรามการทุจริต

ด้าน นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างรั้วกึ่งถาวร ตนเป็นประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และเมื่อโครงการมีปัญหาเราก็จะเข้าประชุมกันทุกครั้ง จากนั้นนำผลการประชุมเสนอไปยังกรมอุทยานฯ ให้ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง แม้กระทั่งในช่วงเริ่มมีการก่อสร้าง แต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย แต่ปรากฏว่าขณะนั้นช้างป่าได้มาดันเสารั้วจนล้มได้รายงานไปยังกรมอุทยานฯ ให้ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไร เรื่องนี้ก็คงต้องให้กรมอุทยานฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีความเหมาะสมและไม่เกิดประโยชน์ที่แท้จริง และอาจจะต้องนำเสนอไปยังกรมฯ พิจารณายกเลิก เพื่อจะนำงบประมาณจำนวนนี้ไปใช้กับโครงการอื่นต่อไป

เห็นแล้วไม่สบายใจ! ปปช.กาญจน์สอบรั้วกึ่งถาวรกันช้างป่างบกว่า19ล้านใช้การไม่ได้

สำหรับปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ ชาวบ้านที่อยู่โดยรอบได้รับความเดือดร้อนมานานนับสิบปีแล้ว ซึ่งเขตรักษาพันสัตว์ป่าสลักพระก็ทราบปัญหานี้มาโดยตลอด ซึ่งงบประมาณที่นำมาก่อสร้างโครงการรั้วกึ่งถาวร ก็เพื่อมาช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว แต่ติดปัญหาปัจจัยเรื่องสิ่งแวดล้อม เมื่อโครงการดำเนินการไปแล้ว แต่เมื่อขุดเจาะลึกลงไปปรากฏว่าทำไม่ได้ เนื่องจากใต้ผิวดินนั้นเป็นแผ่นหินดานที่มีความกว้างและยาวไปตลอดทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร ซึ่งกรมอุทยานฯ จะต้องพิจารณาเปลี่ยนแบบโดยไม่ใช้รูปแบบที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องให้ทางวิศวกรรมของฝ่ายฟื้นฟูกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามขอฝากไปถึงประชาชนและผู้นำท้องถิ่นด้วยว่า ทางกรมอุทยานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาช้างป่าออกมาหากินนอกพื้นที่ ซึ่งกรมอุทยานฯ จะทำให้ดีที่สุดต่อไป