หนุ่มเที่ยวคาราโอเกะเงินมีไม่พอจ่ายถูกทำร้ายจนปากเบี้ยว

เมื่อวันที่28 พ.ค. 2564 ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น นายประยุทธ์ ดาวเรือง อายุ 44 ปี ลูกชายและนางสมพล ดาวเรือง อายุ 70 ปีมารดา ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกเจ้าของร้านคาราโอเกะพร้อมพวกทำร้ายร่างกายในร้านดอกเหมยคาราโอเกะ ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 เพื่อกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฆ้องชัย เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเนื่องจากเจ้าของร้านอ้างตัวเป็นตำรวจอยู่สำนักงานตำรวจภูธรภาค4 และข่มขู่จะฆ่าทิ้งทุกคนหากมีการแจ้งความและร้องเรียนในเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงให้คู่กรณีมาดูแลในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ที่ต้องมีการรักษาต่อเนื่องโดยมีพ.ต.อ.กีรติพนธ์ สุวรรณะพิชญา รอง ผบก.อก.ภ.4 รับหนังสือดังกล่าวแทน

นายประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ได้ขับรถยนต์พารุ่นน้อง3 คน ไปหาเพื่อนที่อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ตกกลางคืน จึงพากันเข้าไปสั่งอาหารเครื่องดื่มนั่งกินที่ร้านดอกเหมย คาราโอเกะ หมดอาหารเครื่องดื่มไป2 ชุด จากนั้นประมาณเที่ยงคืนทางร้านได้เช็คบิลค่าอาหารรวมเป็นเงิน 3,500บาท แต่เงินมีติดตัวเพียง 900บาท จึงขอร้องทางร้านว่าขอจ่ายพรุ่งนี้เช้า จะให้ภรรยาโอนตังค์มาให้ แต่ทางร้านไม่ยอม พยายามขอของมีค่า ทั้งโทรศัพท์มือถือและทองที่สวมใส่ในตัว จึงไม่ยอมให้และกลับไปนั่งที่โต๊ะเช่นเดิม ส่วนทางร้านก็ปิดทางเข้าออกร้าน

"ขณะนั่งที่โต๊ะกับน้องๆรวม 4 คนได้ถูกคนลอบทำร้ายจากด้านหลังด้วยการใช้ของแข็งตีที่ศีรษะ 2 ครั้งจนสลบ รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อน้องๆนำตัวขึ้นรถ กลับมาที่อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และถูกส่งโรงพยาบาลน้ำพอง แต่อาการสาหัส จึงถูกส่งตัวเข้ารักษาที่รพ.ศูนย์ขอนแก่นเป็นเวลา 11 วันแพทย์ลงความเห็นว่า เส้นเลือดในสมองแตก กะโหลกศีรษะร้าว เลือดออกในสมอง เมื่ออาการดีขึ้นแพทย์จึงให้ออกจากโรงพยาบาล แต่ต้องรักษาตัวต่ออีกตามแพทย์นัด เนื่องจากว่ากะโหลกศรีษะด้านซ้ายแตก เส้นประสาท ระบบประสาทไม่เชื่อมกัน ซึ่งขณะนี้ใบหน้าเสียรูป ปากเบี้ยว ตาข้างซ้ายหลับไม่ได้ ข้างขวาก็แสบตาตลอดเวลา เวลานอนต้องใช้ผ้าก็อตปิดตาข้างซ้าย และดึงหนังตาให้ชิดกัน"นายประยุทธ กล่าว

ขณะที่ นางสมพล ดาวเรือง อายุ 70 ปี มารดาคนเจ็บ กล่าวว่า ลูกชายเคยเป็นคนมีร่างกายแข็งแรง ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด แต่การพาน้องๆไปธุระและไปรับประทานอาหารในครั้งนี้ ไม่น่าจะถูกทำร้ายร่างกายจนสาหัสเช่นนี้ ไม่ได้เข้าข้างลูกชาย แต่การกระทำตามที่ฟังจากเด็กๆที่ไปด้วย เล่าให้ฟังว่า ลูกชายรอการโอนเงินจากภรรยา ซึ่งน่าจะโอนช่วงเช้าแล้วจะจ่ายให้ แต่ทางร้านไม่ยอม ได้ปิดร้าน ปิดทางเข้า และทำร้ายลูกชาย เมื่อลูกชายบาดเจ็บและสลบ ได้ปลดเอาแหวนทอง ปลดเอาสร้อยคอทองคำ แล้วนำไปเผาไฟ ทำให้สร้อยคอทองคำเป็นสีดำ จึงโยนคืนให้เด็ก หาว่าเป็นทองปลอม เด็กจึงนำทองมาคืนให้

"ทางร้านทำเกินกว่าเหตุ ไม่น่าทำร้ายกันขนาดนี้ หนำซ้ำยังไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกชายข้อหา ทำให้เสียทรัพย์หลังออกจากโรงพยาบาล ก็ต้องเดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ฆ้องชัย ในส่วนที่ถูกแจ้งความ เพราะทางร้านแจ้งว่า เก้าอี้หัก 2 ตัว แต่ลูกชายบอกว่า ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ เพราะนั่งกินอยู่ก็ถูกทำร้ายจนสลบ มีคนมาบอกให้ลูกชายรับสารภาพ เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย จะได้จบๆกันไป ลูกชายจึงยอมรับแต่ในส่วนคดีของลูกชายไม่มีความคืบหน้า ถามพนักงานสอบสวนก็โยนไปหาผู้บังคับบัญชา ถามผู้บังคับบัญชาก็โยนไปหารองผู้กำกับ จนเวลาผ่านมาจะ 5 เดือนแล้ว ไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจหารือกันในครอบครัว พาลูกเดินทางมาร้องเรียนกับ ผบช.ภ.4 เนินการให้ความเป็นธรรมและดำเนินการกับเจ้าของร้านคาราโอเกะที่อ้างตัวเป็น ภ.4 ด้วย"

ด้านพ.ต.อ.กีรติพนธ์ สุวรรณะพิชญา รอง ผบก.อก.ภ.4 กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียนและทราบรายละเอียดจากนายประยุทธ์ ในเบื้องต้นแล้ว กล่าวว่า จะดำเนินการทำหนังสือรายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ทราบเรื่อง เพื่อมีคำสั่งไปยังพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์และสภ.ฆ้องชัย ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่เข้าร้องเรียนในครั้งนี้