posttoday

ประจาน!ติดป้ายยักษ์ชวนต้าน"เปลี่ยนป่าสงวนฯเป็นที่ราชพัสดุ"

16 พฤษภาคม 2564

เพชรบูรณ์-เจ้าของรีสอร์ทดังเขาค้อติดป้ายยักษ์ชวนประชาชนร่วมต้าน"เปลี่ยนป่าสงวนฯเป็นที่ราชพัสดุ เอื้อนายทุน-นักการเมือง ใช้เขาค้อเป็นโมเดลฮุบป่าโดยไม่ผิดกฎหมาย"อัดยับนักการเมืองสมคบข้าราชการใหญ่ทำลายป่า

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นายประสม ประคุณสุขใจ กรรมการผู้จัดการบริษัทเมาเทนพาร์คอินเตอร์เนชั่นแนล กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท จำกัด และเจ้าของรีสอร์ทชื่อดัง "เมาเทนพาร์ค"เขาค้อ นำพนักงานลูกจ้างเกือบ 10 คน ติดตั้งป้ายยักษ์ขนาดยาว 25 เมตรกว้าง 5 เมตร บริเวณหน้ารีสอร์ทฯ ริมถนนทางหลวงหมาย 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยบนแผ่นป้ายไวนิลยักษ์ดังกล่าว มีข้อความระบุว่า "ร่วมกันต้านผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ ที่ขอให้ครม.เปลี่ยนป่าสงวนแห่งชาติเป็นที่ราชพัสดุ เพื่อให้นายทุนและนักการเมืองใช้เขาค้อเป็นโมเดล ช่วยนักการเมืองที่รุกป่าถือครองที่ป่าโดยไม่ผิดกฎหมาย เชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมปกป้องผืนป่า ป่าสงวนเป็นของประชาชนทั้งประเทศ" โดยมีรูป "นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง, นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์" อยู่บนแผ่นป้ายยักษ์ดังกล่าว

นอกจากนี้ นายประสมยังแขวนป้ายไวนิลขนาดความยาว 10 เมตรและกว้าง 2 เมตร ที่บริเวณหน้าซุ้มประตูทางเข้าทางรีสอร์ท และยังใช้รถเครนแขวนป้ายขนาดความยาว 6 เมตรกว้าง 1.2. บนริมถนน โดยป้ายทั้งสองมีข้อความและรูปภาพ รมช.คลัง, อดีตผู้ว่าฯและผู้ว่าฯ แบบเดียวกันกับป้ายยักษ์ จนทำให้เกิดเสียงฮือฮาในทำนองเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้เป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ในขณะที่ผู้ที่เดินทางสัญจรผ่านไปมาต่างพากันแปลกใจ ในขณะที่มีบางรายถึงกับจอดรถบริเวณข้างทางเพื่อบันทึกไว้ สำหรับการป้ายยักษ์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

ประจาน!ติดป้ายยักษ์ชวนต้าน"เปลี่ยนป่าสงวนฯเป็นที่ราชพัสดุ"

นายประสม ประคุณสุขใจ กล่าวว่า ป่าสงวนฯเป็นสมบัติของประชาชนทั้งประเทศ แล้วผู้ว่าฯจะเพิกถอนป่าสงวน เพื่อให้นายทุนที่บุกรุกป่าได้กรรมสิทธิที่ดิน โดยไม่ผิดกฎหมาย จึงมาปลุกกระแสสังคมต้องการให้ทุกคนรับรู้และออกมาช่วยกันปกป้องผืนป่า เพราะตั้งแต่อดีตผู้ว่าฯสืบศักดิ์มีหนังสือเข้าครม.ไป 2 สองฉบับ และผู้ว่าฯคนปัจจุบันก็มีหนังสือไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค.63 อีกฉบับ ตอนนี้ก็ให้นายอำเภอเขาค้อไปสำรวจที่ดินเพื่อให้ครม.ยกเลิกป่า เบื้องหลังเพื่อให้นายทุนและนักการเมืองและข้าราชการซึ่งมีแทบทุกที่สีเข้าถือครอง

"กล้าทำกันได้อย่างไร ป่าเป็นของคนทั้งประเทศ เพื่ออะไรทำให้กับนักการเมือง ให้ผู้บุกรุกป่าได้ที่ดินไปโดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่รู้เอาสามัญสำนึกที่ไหนมาคิด ป่าสงวนเป็นของประชาชนทั้งประเทศ การจะเพิกถอนป่าสงวนต้องเป็นประโยชน์แห่งรัฐไม่ใช่ประโยชน์นายทุนหรือนักการเมือง ที่ฟังมามีใหญ่กว่านั้นที่ต้องการเอาโมเดลเขาค้อ ไปจัดการที่ป่าที่นักการเมืองบุกรุกไว้ทั้งหมดไปจัดการให้ถูกต้องเหมือนเขาค้อ หากผมไม่ออกมาปกป้องผืนป่าทั้งหมดคงไม่เหลือ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็รับปากว่าจะจัดการ แล้วก็จัดการจริงๆมีการออกคำสั่งคสช.ที่ 6/2562 ให้จัดการดำเนินคดีโรงแรมรุกป่า แต่ปรากฎว่ามีการบิดเบือนคำสั่งและยังจะมาเพิกถอนป่าเพื่อให้นายทุน โดยมีนักการเมืองและข้าราชการแทบทุกสีต่างมีเอี่ยวอยู่เบื้องหลัง"นายประสมกล่าวย้ำ

ประจาน!ติดป้ายยักษ์ชวนต้าน"เปลี่ยนป่าสงวนฯเป็นที่ราชพัสดุ"

นายประสม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้แจ้งความดำเนินการมาตรา 157 กับอดีตผู้ว่าฯและผู้ว่าฯไป 4 คนซึ่งทางป.ป.ช.ได้มีการสอบสวนตนไปแล้ว นอกจากนี้ยังแจ้งดำเนินคดีกับอดีตนายอำเภอและนายอำเภอเขาค้ออีก 4 คน รวมทั้งยังแจ้งเนินคดีกับอดีตนายอำเภอหล่มเก่า และนายอำเภอหล่มเก่าอีก 4 คนกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นและการทำลายทรัพยากรธรรมชาติไม่มีอายุความ

"เรื่องนี้ผมเคยคุยกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วก็ยอมรับ และหลังมีการออกคำสั่งคสช.มา ทางกระทรวงมหาดไทยก็ออกกฎกระทรวงมาอีก แต่ก็ยังมีการบิดเบือนคำสั่งไม่รู้เป็นความเลวร้ายที่มีราชการผู้ใหญ่ระดับจังหวัดบางคน ที่ไม่คิดถึงพี่น้องประชาชน ยิ่งตอนนี้เขาค้อกำลังมีการก่อสร้างรีสอร์ทใหญ่ๆอีกหลายแห่ง ตนเพิ่งได้รับข้อมูลมาไม่ว่าจะเป็นทางขึ้นกังหันลมและยังมีจุดอื่นๆอีก ต้องถามว่านายอำเภอตาบอดหรือเปล่า ที่ปล่อยให้สร้างมาได้ถึงขนาดนี้

ประจาน!ติดป้ายยักษ์ชวนต้าน"เปลี่ยนป่าสงวนฯเป็นที่ราชพัสดุ"

นายประสม กล่าวว่า กฎหมายโรงแรมถ้าที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ ไม่ว่าจะได้เช่าตามมาตรา 16 พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ หรือการได้ครองที่ดิน คทช.แปลงรวม ก็ไม่สามารถจะจดทะเบียนโรงแรมได้ สำคัญที่สุดผู้ที่มาบุกรุกทำโรงแรมที่เขาค้อราวร้อยละ 90 เป็นคนต่างถิ่นทั้งนั้นไม่ใช่คนเขาค้อ และคนเหล่านี้บางส่วนก็ครอบครองที่ดินหลายร้อยไร่ และบางรายยังทำธุรกิจค้าที่ดินบนเขาค้อ แต่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ ในขณะที่ปัจจุบันนี้นายทุนเหล่านี้หลายรายยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมโดยปกติ ไม่มีอะไรจะเงื้อมมือไปแตะต้องได้ เพราะเบื้องหลังมีทั้งนักการเมืองและข้าราชการ-อดีตข้าราชการบิ๊กๆแทบทุกสีมีเอี่ยวหรือหนุนหลังอยู่