กาญจน์ปรับความเข้มข้นคุมโควิด-19เน้นทุกคนต้องสวมแมสก์

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน และต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดมาตรการควบคุมการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่เข้มข้นกว่าเดิม ไม่ให้การระบาดของโรคทวีความรุนแรงมากขึ้น และสามารถยุติลงได้โดยลงเร็ว

จังหวัดกาญจนบุรีจึงกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ดังนี้

การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเมื่ออยู่นอกเคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและป้องกันไม่ให้เกิดสภาะที่ไม่ถูกสุขลักษณะเพื่อจำกัดวงในการระบาดของโรค เมื่ออยู่นอกเคหะสถานหรือเมื่ออยู่ในที่สาธารณะให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและต้องสวมให้ถูกวิธีตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ เมื่อพบผู้ไม่ปฏิบัติตาม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนและให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง แต่หากผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป จะมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุม ดังนี้

1.การห้ามการดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรค

- ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่การใช้ที่เป็นเอกเทศตามกำหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือใช้เป็นสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลืออุปการะ หรือสถานที่ตามข้อยกเว้น

- ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมตัวของบุคคลที่มีจำนวนรวมตัวกันมากกว่า 50 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานกักกันโรค โดนดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

2.มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ การจำแนกตามพื้นที่สถานการณ์

- การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภรคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23.00 น. โดยนำไปบริโภคที่อื่น

- การจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สำหรับร้านอาหาร หรือสถานที่จำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุกและที่มีลักษณะคล้ายกัน ที่งดการให้บริการ

- ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ที่ตามปกติเปิดให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดให้บริการได้ในเวลา 04.00 น. และปิดในเวลา 23.00 น. โดยให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

- สนามกีฬา หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ชมในสนาม โดยให้ดำเนินการตามมาตรป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด

- การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางในช่วงเวลานี้ โดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคที่อาจทำให้เสี่ยงหรือมีโอกาสติดโรค

กรณีประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนด โดยต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่พรักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในท้องที่เพื่อรับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ให้พนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ ติดตามและกำกับ ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

การจัดกิจกรรมทางสังคม ให้ประชาชน “ งด ” การจัดกิจกรรมในลักษณะที่เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ งานเลี้ยง หรืองานรื่นเริงในช่วงเวลานี้ เว้นแต่การจัดพิธีตามประเพณีนิยมและมีมาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ

การดำเนินรูปแบบการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ให้เจ้าของกิจการผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาและดำเนินรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากรในความรับผิดชอบในช่วงเวลานี้ โดยอาจเป็นการปฏิบัติงาน นอกสถานที่ตั้ง การสลับวันทำงาน หรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสม เพื่อลดโอกาสเลี่ยงจากการติดเชื้อ

การประเมินความเหมาะสมของมาตรการ เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ของพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีอาจพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการสั่งปิด จำกัด หรือ ห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่ หรือพาหนะ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพิ่มเติมจากที่กำหนด โดยให้ดำเนินการสอดคล้องกับมาตรการหรือแนวปฏิบัติที่นายกรัฐมนตรีกำหนด

การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาดำเนินมาตรการขั้นสูงสุดเพื่อมุ่งลดจำนวนการเดินทางของเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่อยู่ในความรับผิดชอบในการป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่และบุคลากรในความรับผิดชอบจะติดเชื้อเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสิบสี่วัน ซึ่งอาจสั่งการให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง การลดจำนวนบุคคลที่ประจำอยู่ในสถานที่ตั้ง การสลับเวลาทำงานหรือวิธีการตามความเหมาะสม โดยพิจารณาให้เพียงพอต่อภารกิจในการให้บริการประชาชน

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง