posttoday

เชียงใหม่ป่วน!โควิดเจอเพิ่มอีก3คลัสเตอร์"กลุ่มขายตรง-งานศพ-สถานที่ทำงาน"

24 เมษายน 2564

เชียงใหม่ - รายงานพบยอดติดเชื้อโควิด-19 อีก 151 ราย เจอคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 กลุ่ม ทั้งสถานที่ทำงาน - งานศพและบริษัทขายตรงจัดงานเลี้ยง พบผู้ติดเชื้อรวมแล้วกว่า40ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงอีกกว่า200ราย

ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ยอดตัวเลขของผู้ป่วยรายใหม่ ณ วันที่ 23 เม.ย. 64 ลดลง อยู่ที่ 151 ราย

นายวีระพันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจหาผู้สัมผัสรวมทั้งพบผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆ มีการแพร่ระบาดของเชื้อในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น สถานปฏิบัติธรรม ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อำเภอดอยสะเก็ด หรือที่สถานที่รับเลี้ยงเด็กมูลนิธิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยพบว่าสาเหตุการติดเชื้อมาจากการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งมาจากต่างครอบครัว มีผลทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง จึงขอความร่วมมืองดการจัดกิจกรรมใดๆ ที่จะต้องรวมกลุ่มคน โดยเช้าวันนี้จังหวัดเชียงใหม่มีการประชุม ทบทวน ติดตามการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 25 อำเภอ ตามข้อสั่งการของส่วนกลางในการสอดส่อง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการมั่วสุมลักลอบเล่นการพนัน การสังสรรค์ของคนหมู่มาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แบบกลุ่มก้อน โดยจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่

ด้าน ดร.ทรงยศ กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วย โควิด – 19 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นข้อมูลจริงจากการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งวันนี้พบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มีจำนวน 151 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,970 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 2,567 ราย และรักษาหายแล้ว 403 ราย ซึ่งรักษาหายเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 2 เท่า ส่วนการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงได้ดำเนินการตรวจไปแล้ว 47,241 ราย พบผู้ติดเชื้อคิดเป็น 6.36% โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อในสถานบันเทิงลดลง จาก 50% เหลือประมาณ 46.7% แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการสัมผัสในครอบครัวเพิ่มขึ้นจาก 15.00% เป็น 15.4% รวมทั้งการสัมผัสในชุมชน การสัมผัสในที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

“สำหรับสถานการณ์จาก 3 กลุ่มที่ติดเชื้อโควิด – 19 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. กลุ่มสถานปฏิบัติธรรม ตำบลป่าแดด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 18 ราย ซึ่งทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามทั้งหมดแล้ว ส่วนกลุ่มคลัสเตอร์ศูนย์เด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่คือ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในส่วนของกลุ่มครอบครัวของเด็กเล็ก อีก 6 ราย และกลุ่มคลัสเตอร์ในเรือนจำกลาง อำเภอแม่แตง พบผู้ติดเชื้อจำนวน 17 ราย โดยเป็นผู้ต้องขังแรกรับ ที่พบจากการตรวจในระหว่างกักตัวตามมาตรการ 14 วัน ซึ่งได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่”

เชียงใหม่ป่วน!โควิดเจอเพิ่มอีก3คลัสเตอร์"กลุ่มขายตรง-งานศพ-สถานที่ทำงาน"

ดร.ทรงยศ กล่าวว่า ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ (คลัสเตอร์ใหม่) มีจำนวน 3 คลัสเตอร์ด้วยกัน โดยเป็นการแพร่ระบาดในหน่วยงานแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในแผนกเดียวกัน การติดเชื้อทั้งหมด 13 คน จากบุคลากรในแผนก 80 คน โดยติดเชื้อมาจากการไปเที่ยวสถานบันเทิงเมื่อตอนต้นๆ ของช่วงการแพร่ระบาดในระลอกเดือนเมษายน หลังจากนั้นก็ได้ไปทำงานโดยที่ไม่มีอาการ และไม่ทราบว่าติดเชื้อ และมีการรับประทานอาหารและการประชุมร่วมกัน ทำให้เกิดการแพร่ระบาดภายในหน่วยงานขึ้น และคลัสเตอร์ที่สองเป็นคลัสเตอร์จากงานศพ ในอำเภออมก๋อย เป็นการแพร่ระบาดจากการติดเชื้อในอำเภอเมืองเช่นกัน และกลับบ้านไปร่วมงานศพ ทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 7 คน ทั้งนี้ทีมสอบสวนโรคของอำเภออมก๋อยได้คัดกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำ ได้ทั้งหมด 200 คน จะได้ทำการตรวจคัดกรองต่อไป สำหรับคลัสเตอร์สุดท้ายเป็นบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นการติดเชื้อจากงานเลี้ยงในบริษัท ในกลุ่มพนักงาน 60 คน พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 25 คน

“ซึ่งจากทั้ง 6 คลัสเตอร์นี้ จะเห็นได้ว่าส่วนมากเกิดจากความสนิทสนมของผู้ร่วมงาน หรือคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คนที่ทำงาน หรือเพื่อนบ้านเดียวกัน ทำให้ละเลย ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค จึงเป็นที่มาของการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในหลายๆคลัสเตอร์ดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องมีการป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัย 100% หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันในกลุ่มเพื่อน เพื่อความปลอดภัย ในส่วนของการจัดงานต่าง อาทิ งานมงคล งานอวมงคล หากสามารเลื่อนได้ขอแนะนำให้เลื่อนออกไปก่อน หากมีความจำเป็นที่เลื่อนไม่ได้ ต้องมีการควบคุมคนที่เข้าร่วมงานให้ต่ำกว่า 50 คน”

ดร.ทรงยศ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีการสอบถามถึงการดูแลผู้ป่วยอื่นๆ หรือผู้ป่วยทั่วไปในโรงพยาบาลนั้น ทางสาธารณสุขขอยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากผู้ป่วยที่เป็นโรค อื่นๆและโรคติดต่อนั้น มีจำนวนลดลง จากการที่สวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคอุจจาะร่วง ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และมือเท้าปาก ในส่วนของผู้ป่วยหนักก็ยังมีตามปกติ โดยโรงพยาบาลทุกแห่งจะมีการจัดทีมแพทย์และพยาบาลในการอยู่เวรดูแลรักษาผู้ป่วยอื่นๆ อย่างเพียงพอ รวมไปถึงยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด รวมไปถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเตียงรักษาผู้ป่วยนั้น ยืนยันว่าขณะนี้มีเพียงพอและสามารพบริหารจัดการได้ โดยในส่วนระบบของการรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษานั้น ผู้ป่วยจะต้องได้รับการประเมินอาการจากโรงพยาบาลสนามก่อน จึงจะเข้ามารักษาในโรงพยาบาลสนาม โดยจะมีการจัดรถของโรงพยาบาลสนามเข้าไปรับ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน