posttoday

ชายวัย40ขับเก๋งไปต่างอำเภออ้างไม่รู้ชนอะไรสุดท้ายเป็นศพหนุ่มวัย22

23 มีนาคม 2564

ชัยภูมิ-ชายวัย40ควบเก๋งไปทำธุระต่างอำเภออ้างไม่รู้ชนอะไรทำให้รถไปต่อไม่ได้ลงออกมาดูพบเป็นศพหนุ่มวัย22กับจยย.

เมื่อวันที่ 23มีนาคม 2564 เวลา 05.00น.ร.ต.ท.หญิง วริศรา เมฆสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากทาง 191 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีอุบัติเหตุ รถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ บนถนนหมายเลข201สายชัยภูมิ-แก้งคร้อ ช่วงบ้านเล่า ตำบลบ้านเล่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ หลัก กม.ที่133-134 จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิและหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย สภาพใบหน้าเละ คอหัก นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณกลางถนน สวมเสื้อสีดำ กางเกงสีดำขายาว ทราบชื่อนายกฤษดา คันสร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ที่ 12 ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ใกล้กันยังพบหมวดกันน๊อคเต็มใบตกอยู่พร้อมกับป้ายทะเบียนรถเก๋ง ในล่องเกาะกลางถนนยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ สีเทา ป้ายทะเบียน 1กด 8294 หมวดจังหวัดชัยภูมิ

ชายวัย40ขับเก๋งไปต่างอำเภออ้างไม่รู้ชนอะไรสุดท้ายเป็นศพหนุ่มวัย22

ห่างออกไปราว 500 เมตรพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิสตี้ สีเทา ป้ายทะเบียน กท 1598 หมวดจังหวัดชัยภูมิ จอดอยู่ สภาพด้านหน้าขวาพัง โดยมีนายนพรุต บุตรชาลี อายุ 40 ปี อาศัยบ้านเลขที่224 หมู่ที่ 13 ตำบลนาข่า อำเภอมัญจาคิรี จังหวัดขอนแก่น เป็นคนขับรถเก๋งยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่

ชายวัย40ขับเก๋งไปต่างอำเภออ้างไม่รู้ชนอะไรสุดท้ายเป็นศพหนุ่มวัย22

สอบถามไปยังนายนพรุต คนขับรถเก๋งเล่าว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกจากบ้านพัก มุ่งหน้าเพื่อที่จะไปทำธุระที่อำเภอภูเขียวระหว่างทางขับรถมา ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดไม่ทันสังเกตุว่ามีอะไรอยู่กลางถนน กระทั่งชนเต็มแรง และ รถไปต่อไม่ได้จึงรีบลงมาดูพบมีผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่

ชายวัย40ขับเก๋งไปต่างอำเภออ้างไม่รู้ชนอะไรสุดท้ายเป็นศพหนุ่มวัย22

ด้าน ร.ต.ท.หญิง วริศรา เมฆสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุและจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ก่อนที่จะเชิญตัวคนขับรถเก๋งไปสอบสวนอย่างละเอียดที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ได้มอบให้โรงพยาบาลชัยภูมิทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะแจ้งให้ญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป