หนุ่มสุราษฎร์ฯมึนถูกสวมชื่อเป็นผู้ต้องขังคดีวิ่งราวทรัพย์

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 นายธรรมรักษ์ พรหมมงคล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 1 ต. พุมเรียง อ. ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้เข้าร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไชยา เนื่องจากถูกสวมสิทธิ์ใช้ชื่อ นามสกุล และเลขบัตรประชาชน 13 หลักไปก่อเหตุทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก ที่อยู่ดีๆมีชื่อเป็นผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวทั้งที่ไม่เคยทำความผิดไม่เคยต้องโทษจำคุกใดๆ

นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้รับหนังสือแจ้งจากเรือนจำอำเภอไชยา ให้ไปรายงานตัวเนื่องจากเป็นบุคคลพักโทษจากเรือนจำกลางสมุทรปราการ ซึ่งตนถึงกับงงและตกใจมาก เมื่อตรวจสอบพบว่าทั้งชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชนของตนไปตรงกับข้อมูลบุคคลพักโทษดังกล่าว ทั้งที่ชื่อสกุลและเลข 13 หลักบัตรประจำตัวประชาชนเป็นของตนเอง แต่เมื่อดูภาพถ่ายนักโทษชายดังกล่าวปรากฏไม่ใช่หน้าตนเอง จึงได้เอกสารหลักฐานทั้งหมดไป ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ไชยา เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา

“ ก่อนนี้ตนทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้ลาออกหางานใหม่ซึ่งไปสมัครหลายบริษัทแต่ไม่มีบริษัทไหนรับทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ นอกจากนี้ตนยังไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินอะไรได้เลยโดยธนาคารแจ้งว่าบัญชีถูกอายัด ซึ่งสร้างความแปลกใจมาก และกำลังติดต่อหน่วยงานต่างๆขอทราบสาเหตุ กระทั่งมาพบว่าตนเป็นบุคคลพักโทษจากเรือนจำมาได้อย่างไร ” นายธรรมรัตน์ กล่าว

นายธรรมรัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อประสานติดต่อเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอไชยา ได้นำภาพผู้ต้องขังให้ดูจึงพบว่านักโทษคนดังกล่าวที่ใช้ชื่อนามสกุลและเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักของตน เคยรู้จักกันเมื่อ 10 ปีที่แล้วและเคยพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน โดยพบว่าชายดังกล่าวได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์และคดีการพนันในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ จึงอาจเป็นไปได้ที่ถูกแอบนำบัตรประชาชนของตนไปสวมแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นปลัดอำเภอไชยา ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตรวจสอบและช่วยเหลือแก้ไขประวัติให้ถูกต้องต่อไป