เมื่อ25 พ.ย.63 นางศศิวิมล ทองมา หรือครูปุ้ม อายุ 53 ปี ภรรยาของนายสมนึก ทองมา หรือครูชลธี ธารทอง นักร้องนักแต่งเพลงและศิลปินแห่งชาติ พร้อมด้วย นางสาวชลาลัย ทองมา หรือแนน อายุ 39 ปี และ นายเอกรินทร์ ทองมา หรือหนุ่ม อายุ 46 ปี บุตสาวและบุตรชายของครูชลธีเดินทางไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรีในนัดสืบพยานโจทก์กรณีครูปุ้ม เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 3 ล้านบาทกับเลขาคนสนิทของครูชลธี
นางศศิวิมล เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ คดีที่ได้ยื่นฟ้องเลขาของครูชลธี เนื่องจากทำให้ครอบครัวเกิดความแตกแยกได้รับความเสียหายโดยยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายไปเป็นเงินจำนวน 3 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายตัวเองมีพยานเบิกความจำนวน 6 ปาก ส่วนลูกสาวและลูกชายที่มาด้วยไม่ได้มาเพื่ออกตัญญูต่อบิดาแต่มาเพื่อเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของตนเองเท่านั้น
ส่วนกรณีที่มีพิธีกรชื่อดังคนหนึ่งมาให้ข่าวในงานคอนเสิร์ต 80 ปี ครูชลธี ธารทอง ที่จัดขึ้นเมื่อปี 2561 ว่า ครูปุ้มกับครูชลธีมีการด่าทอหรือและทะเลาะกัน ซึ่งเรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด ดังนั้นตนจึงเตรียมที่จะฟ้องกลับพิธีกรคนดังกล่าวด้วย
ด้าน นางสาวชลาลัย เปิดเผยว่า งานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค.61 ซึ่งในวันนั้นก็อยู่กับคุณพ่อและน้าปุ้ม (ครูปุ้ม) ตลอดเวลา เพราะต้องเข้าไปช่วยงานในการดูแลนักร้องและศิลปิน ซึ่งมั่นใจว่าไม่มีการทะเลาะกันภายในงานแน่นอน เพราะเราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
ขณะที่ นายเอกรินทร์ ลูกชายคนโตของ ครูชลธี กล่าวว่า ตนอยากจะติดต่อและคุยกับพ่อ เพราะอยู่ๆ พ่อก็หายไปจากชีวิตนานถึง 3 ปี และไม่สามารถติดต่อได้หากพบหน้าพ่อในวันนี้ คำแรกที่จะถามพ่อคือ “มันเกิดอะไรขึ้น” เพราะไม่ได้ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของพ่ออยู่แล้ว แต่ในส่วนของครอบครัวก็อยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นางสาวชลาลัย กล่าวเสริมว่า เราสองคนไม่สามารถติดต่อกับพ่อได้เลยมานานนับปีแล้ว โทรไปปลายสายมีสัญญาณเหมือนโทรศัพท์สายไม่ว่าง หากวันนี้สามารถเข้าถึงตัวพ่อได้ เราก็คงได้พูดคุยกัน เพราะทุกครั้งที่มาศาล จะมีบอดี้การ์ดคอยกันไว้ตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่ นางศศิวิมล หรือครูปุ้ม พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย ของ ครูชลธี จะมาถึงที่ศาลฯ เวลาประมาณ 08.00 น. ครูชลธี ได้เดินทางมากับรถยนต์กระบะ 4 ประตู โดยมีรถยนต์กระบะ 4 ประตู อีกคันขับนำหน้าคันที่ ครูชลธี นั่งมา โดยทั้งสองคันขับเข้าไปภายในศาลทันทีอย่างรวดเร็ว