posttoday

สยบดราม่าคลิปป้าโวยร.พ.ดังไม่ยอมตรวจโควิด สอบโรคแล้วไม่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง

17 มีนาคม 2563

ขอนแก่น-รองผอ.รพ.ศรีนครินทร์ ชี้แจงดราม่าคลิปป้าโวยขอตรวจหาโควิด-19 อ้างสัมผัสกับคนจีน ได้ตรวจสอบโรคเบื้องต้นแล้วไม่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Red Skull Society"โพสต์คลิปเหตุการณ์คุณป้ารายหนึ่ง โวยวายส่งเสียงไปทั่วทั้งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจ.ขอนแก่น ใจความว่า ตัวเองป่วยเป็นโควิด 19 ได้รับเชื้อมาจากชาวจีน ไปขอตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแต่ก็ไม่ตรวจให้ ไล่ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐ และสุดท้ายให้มาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ แต่หมอไม่ตรวจให้แม้จะเป็นโควิด 19 บอกว่าตรวจไม่ได้เพราะไม่มียา ซึ่งหญิงรายนี้ได้ตะโกนอีกว่า ตัวเองมีเงิน มีจ่ายเป็นหมื่นแต่หมอไม่ยอมตรวจ พร้อมตะโกนว่าโควิดอยู่ตรงนี้ มาตรวจเดี๋ยวนี้ ยืนดูทำไมหมอ มาตรวจคนไข้ ใครใหญ่ที่สุดในโรงพยาบาลศรีนครินทร์มาพูดหน่อย

รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า รองผู้อำนวยการโรงพยาลศรีนครินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นจริงเมื่อช่วงสายของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 16 มี.ค.) ขณะนั้นทั้งแพทย์และพยาบาลกำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจคัดกรองผู้ป่วยอยู่ที่บริเวณหน้าทางเข้าของโรงพยาบาล ซึ่งมีหญิงรายดังกล่าวได้ตะโกนเสียงดังจนทุกคนแตกตื่น บอกว่าตัวเองเป็นโควิด-19 ติดมาจากชาวจีน และส่งเสียงดังระบุว่าทางโรงพยาบาลไม่ยอมตรวจให้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวทางโรงพยาบาลได้มีการตรวจคัดกรองพร้อมซักประวัติและประเมินตามขั้นตอนของทางโรงพยาบทราบว่าแทบจะไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ทางแพทย์ก็ได้อธิบายให้หญิงรายดังกล่าวทราบและก็มีความเข้าใจในเหตุผลทางการแพทย์ และให้คำแนะนำ ซึ่งหญิงรายดังกล่าวก็เข้าใจและยอมเดินทางกลับไป

"การประเมินของทางโรงพยาบาลเราจะมีหลักการในการประเมินคนไข้รายไหนที่เหมาะสมในการตรวจหาเชื้อโควิด19นั้น จะต้องตรวจพบอาการของระบบทางเดินหายใจ หรือมีไข้ วัดแล้วมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียล หรือมีอาการไอ เจ็บ คอ มีน้ำมูก เจ็บตามเนื้อตามตัว หรือไข้ทั่วไป มีประวัติสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง และมีผลตรวจยืนยัน กลับมาจากต่างประเทศที่มีความเสี่ยง ซึ่งกลุ่มเหล่านี้คือกลุ่มที่มีความเสี่ยง ซึ่งทางรัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายในการตรวจให้ฟรีทั้งหมด และทำการรักษาให้ฟรีทั้งหมดในการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ แต่หากไม่มีอาการแต่อยากตรวจแต่ไม่เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ทางโรงพยาบาลก็จะอธิบายว่าเจ็บป่วยจากสาเหตุใด อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆที่ไม่ใช้ระบบทางเดินทางหาย เช่นเป็นไข้จากกระเพาะปัสสาวะ หรือปัจจัยอื่นๆก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจโควิด-19 ซึ่งจะมีขั้นตอนการสืบสวนโรคว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ถ้ามีความเสี่ยงก็จะมีการตรวจ 2 แล็บเพื่อยืนยันผล แต่ถ้าไม่มีคามเสี่ยงก็ไม่จำเป็นต้องตรวจ เพราะการเป็นไข้ หวัด ไม่จำเป็นว่าจะเสี่ยงเป็นโควิด-19เสมอไป พร้อมกันนี้หากใครที่คิดว่าตัวเองจะเป็นโควิด-19 ก็อยากให้กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน และโทรศัพท์สอบถามทางโรงพยาบาลให้ทางโรงพยาบาลได้ทำการประเมินเบื้องต้น หากพบว่ามีความเสี่ยงทางโรงพยาบาลก็จะออกไปรับตัวถึงบ้านเพื่อเข้าสู่การรักษาตามขั้นตอน ไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาล"

รอง ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวต่ออีกว่า อยากจะให้ทุกคนเข้าใจในเรื่องการตรวจโควิด-19ว่า หากไม่มีความเสี่ยงก็ไม่ควรที่จะตรวจ เพราะการตรวจจะทำให้เข้าใจผิดได้ เพราะผลการตรวจที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ตรวจแล้วไม่พบไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ติดเชื้อเพราะมีระยะฟักตัวต่างๆเกิดขึ้น เพราะถึงแม้มีคนใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นแล้วตรวจพบว่าผลตรวจเป็นลบก็ยังต้องกักกันตัวเองอีก 14 วัน เพราะไม่ได้เป็นทันที แต่ถ้าหากการประเมินของแพทย์แล้วไม่พบมีความเสี่ยงก็ไม่ควรตรวจ

แต่สิ่งแรกที่ทำคือ การกักกันตัวเอง อยู่ห่างจากคนอื่น 1 เมตร แยกของใช้ และใส่หน้ากากอนามัยโรงพยาบาลก็เข้าใจความวิตกกังวล และอีกสิ่งหนึ่งคือ การตรวจนั้นก็จะต้องเปลืองทรัพยากรของโรงพยาบาลทั้งชุด ถุงมือ หน้ากากอนามัย ที่แพทย์จะต้องใช้ตรวจ เครื่องมือต่างๆ ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่ได้กลัวในเรื่องการเสียเงิน แต่ปัจจุบันเครื่องมือแพทย์สำหรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องใช้ให้คุมค่าที่สุดเพราะต้องมีสำรองในรายที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง แต่หากไม่มีความเสี่ยงแล้วตรวจให้ก็จะเกิดการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์และที่สำคัญการใช้เวลาในการตรวจหาเชื้อนั้นใช้เวลานานก็จะทำให้แพทย์ที่ทำการตรวจต้องเสียเวลาในการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เกิดประโยชน์ ทางโรงพยาบาลก็อยากให้เข้าใจในจุดนี้ด้วย ถึงเหตุผลที่ไม่ตรวจให้ตามคลิปดังกล่าว