posttoday

กระทิงป่าขวิดกันจนตาย ก่อนถูกคนลอบตัดหัวไป จนท.แจ้งความแล้ว

15 มีนาคม 2563

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจซากกระทิงป่าในพื้นที่ตอนเหนือเขื่อนรัชชประภา พบสาเหตุการตายจากการต่อสู้กันเอง แต่มีคนมาพบซากและลอบตัดหัวไป

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 63 นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) เปิดเผยว่า กรณีพบซากกระทิงตัวใหญ่ในบริเวณคลองยาว ตอนเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา หมู่ที่ 3 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ได้มอบให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงพบ เป็นซากกระทิง เพศผู้ ความยาว 196 เซนติเมตร ความสูง 136 เซนติเมตร ตรวจสอบภายนอกไม่พบบาดแผลบนลำตัว ส่วนบาดแผลบริเวณลำคอมีลักษณะเปื่อยยุ่ย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 วัน ได้ทำการผ่าซากพบอวัยวะเน่าเปลือยเนื่องจากแช่อยู่ในน้ำกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อและอวัยวะบางส่วนส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ

นอกจากนี้ในกระเพาะอาหารพบเศษหญ้า เศษอาหารอัดแน่นอยู่เต็ม กระทิงตัวนี้จึงมีสุขภาพที่แข็งแรง และหลังผ่าพิสูจน์ได้ย้ายซากลงหลุมราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนฝังกลบ

นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า คาดว่าหลังกระทิงเสียชีวิตในน้ำอาจมีผู้มาพบเห็นซากกระทิงเข้ามาตัดหัวไป จึงให้นายศุภฤกษ์ ยิ้มประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านตาขุน และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ให้ตรวจค้นการเข้าออกของเรือบริเวณจุดสกัดคลองมอญ และให้ลาดตระเวนพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ศรีบัวรอด หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าคลองแสง กล่าวว่า ในบริเวณพื้นที่คลองยาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง มีฝูงกระทิงอาศัยอยู่ 11-13 ตัว ออกมาหากินในบริเวณพื้นที่นี้และมักจะพบกระทิงเพศผู้ต่อสู้กันเป็นประจำ จึงมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บขึ้นทำให้มีความต้องการดื่มน้ำและต้องการอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เพื่อลงอาบน้ำทำความสะอาดบาดแผลทำให้มีโอกาสเสียชีวิตในน้ำได้