ผู้ประกอบการหาดใหญ่ปรับกลยุทธเพื่อความอยู่รอดช่วงวิกฤตโควิด-19

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคารในจ.สงจลาได้ปรับกลยุทธทางธุรกิจ รองรับจากผลกระทบโควิด 19 ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยว ประชาชนหลีกเลี่ยงออกเดินทางท่องเที่ยว มีผลต่อการประกอบการธุรกิจ เช่น ภัตตาคารที่เคยเปิดบริการ 1 ชั้นครึ่ง ลดเหลือ 1 ชั้น ไว้รองรับผู้มาใช้บริการ ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนค่าน้ำค่าไฟ ค่าบริการ ส่วนโรงแรม พนักงานมีการผลัดเวรหยุด และทำงาน เมื่อสถานการณ์คลี่คลายค่อยปรับเข้าสภาพปกติ

สำหรับ กลุ่มธุรกิจที่ อ.หาดใหญ่ ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลออกนโยบายเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือปลอดดอกเบี้ย และชะลอการผ่อนชำระหนี้ไปชั่วคราวก่อน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะช่วงระยะนี้ไม่มีรายได้ ส่วนประเด็นต่าง ๆ ที่รัฐจะสนับสนนุช่วยเหลือ เช่น อยากให้รัฐเปิดลงทะเบียนในพื้นที่ โดยไม่ต้องขึ้นไปลงทะเบียนที่ส่วนกลาง เพราะจะเพิ่มค่าใช้จ่าย ในขณะที่ไม่มีรายได้เข้ามา

นายอำนาจ พฤกษ์พิกุล มัคคุเทศก์อาชีพ เปิดเผยว่า ตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างอาศัยอยู่ภายในครัวเรือน ไม่ออกเดินทางไปท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่าตามพื้นที่ต่าง ๆค่อนข้างเงียบมาก โดยเฉพาะภาคแรงงานกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะตกงานในระยะนี้

ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ กล่าวว่า จากการสำรวจ ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้มีการปรับตัว จากสถานการณ์โควิด 19 เพราะเหตุเกิดขึ้นชนิดพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ที่หนักมากคือธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งกระบวนการเป็นห่วงโซ่ ส่งผลให้สถานประกอบการไม่มีรายได้สภาพคล่องขาดหายไม่มีเงินใช้จ่าย เพราะธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีรายได้อันดับต้นของประเทศ ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ

ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวว่า ประมาณว่า อีกประมาณ 3 เดือนสถานการณ์จะคลี่คลาย ระยะนี้รัฐบาลเท่านั้นที่จะดำเนินการเยียวยา คือลดภาษีให้ผู้ได้รับความเดือดร้อน สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับเดือนร้อนคือคนมีเงินเดือน ข้าราชการเจ้าหน้าที่ พนักงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ

นอกจากนั้น รัฐบาลจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนที่เข้ารับการรักษาโรคโควิด 19 ในโรงพยาบาลต่างจังหวัด เช่น โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ม.สงขลานครินทร์ (มอ.) และ โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพราะเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น คลายวิตกกังวลความกลัวทันที