ศาลเพชรบุรีอนุญาตถอนคำร้องขอบิลลี่เป็นคนสาบสูญ

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนคำร้องตามที่น.ส พิณนภา หรือ"มึนอ" พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ยื่นคำร้องขอให้นายพอละจีเป็นคนสาบสูญ หลังจากนายพอละจี หายไปตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย 57 ผ่านมา 5 ปีไม่มีความคืบหน้าทั้งการติดตามหาและการดำเนินคดี น.ส พิณนภา จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 27 ส.ค.62 เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้บิลลี่เป็นคนสาบสูญ

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากดีเอสไอแถลงเมื่อวันที่ 3 ก.ย 62 ว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษพิสูจน์พบวัตถุในอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ซึ่งการตรวจสอบเชื่อว่า วัตถุดังกล่าวเป็นกระดูกของนายพอละจี รักจงเจริญที่เสียชีวิตแล้ว โดยไม่ทราบวิธีที่ทำให้ตาย แต่นำมาเผาทำลายเพื่ออำพรางคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ย 62นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบเงินค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย ค่าจัดการศพ และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู แก่นางสาวพิณนภา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 140,000 บาท และในวันที่ 24 ธ.ค 62 ดีเอสไอได้มีหนังสือถึงน.ส พิณนภา เพื่อรับรองการเสียชีวิตของนายพอละจี และแจ้งว่าเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย

"เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาศาลจังหวัดเพชรบุรีนัดไต่สวน น.สพิณนภาจึงเดินทางไปพร้อมกับทนายความ และเห็นว่าปัจจุบันนายบิลลี่ไม่อยู่ในสถานะคนสาบสูญ จึงได้ยื่นคำร้องขอถอนคำร้อง พร้อมแนบหนังสือของดีเอสไอรับรองการเสียชีวิตของนายพอละจี ซึ่งศาลจังหวัดเพชรบุรีได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนคำร้องได้"นายสุรพงษ์ กล่าว