posttoday

ไม่รอลงอาญา!ศาลจำคุกเปรมชัย16เดือนฐานสนับสนุนให้ล่าเสือดำ

19 มีนาคม 2562

กาญจนบุรี-ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาจำคุกเปรมชัย16เดือนไม่รอลงอาญาคดีสนับสนุนให้ล่าเสือดำและสั่งปรับเงิน2ล้านบาท

กาญจนบุรี-ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาจำคุกเปรมชัย16เดือนไม่รอลงอาญาคดีสนับสนุนให้ล่าเสือดำและสั่งปรับเงิน2ล้านบาท

ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย เป็นจำเลยที่ 1 พร้อมพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยในความผิด รวม 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และ 6.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

ศาลพิพากษาจำเลยที่1คือนายเปรมชัย จำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ข้อหา ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน , เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน , ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งได้แก่ ไก่ฟ้าหลังเทา ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน และให้ยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และยกฟ้องข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองซึ่งได้แก่ เสือดำ

ส่วนจำเลยอื่นศาลพิพากษาลงโทษดังนี้

จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ จำคุก 13 เดือน

จำเลยที่ 3 นางนที เรียมเเสน จำคุก 4 เดือน รอลงอาญา

จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ จำคุก 17 เดือน ไม่รอลงอาญา

นอกจากนี้ ศาลพิพากษาให้นายเปรมชัย กับนายธานี ร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป


"ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา19วรรคหนึ่ง , 47 , 55 ประกอบประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยที่ 1 ที่ 2 และ4 มีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิวรรคหนึ่ง , 72 ทวิวรรคสอง ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 171 ประกอบประมวลกฏหมายอาญา มาตรา83 จำเลยที่2 และที่4 มีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯพ.ศ.2490 มาตรา7 มาตร72วรรคสาม ประกอบประมวลกฏหมายอาญามาตรา83 จำเลยที่4 มีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา16 , 36 , 47 , 53 ประมวลกฏหมายอาญามาตรา80 ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 , 31 วรรคหนึ่ง จำเลลยที่ 1มีความผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 มาตรา16 , 36 ,47 ,53 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา86 การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และ4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา91 ,ฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง กับฐานล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา90" เนื้อหาในคำพิพากษาระบุ